ในยุคที่สื่อสร้างสรรค์สามารถเปลี่ยนมุมมองของสังคมได้ “จ๋องแจ๋ง โปรดักชั่น” ทีมเล็กๆ จากคณะการบัญชีและการจัดการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้ใช้เสียงแร็ปและความคิดสร้างสรรค์ ถ่ายทอดเรื่องราวอันตรายจากบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าในมุมใหม่ จนคว้ารางวัลชนะเลิศประเภทนวัตกรรมรูปแบบสื่อ (Social Media) ในโครงการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาปลอดบุหรี่ บุหรี่ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบครอบคลุมและยั่งยืน ปี 2568 จัดโดย แพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์มาได้สำเร็จ เบื้องหลังชัยชนะนี้เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ การทำงานเป็นทีม และการก้าวผ่านอุปสรรคที่น่าประทับใจ วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับเส้นทางและมุมมองของพวกเขา ที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับนิสิตและเยาวชนที่เชื่อมั่นในพลังของสื่อสร้างสรรค์ มาติดตามได้จากบทสัมภาษณ์นี้ค่ะ



ช่วยแนะนำตัวเองและสมาชิกในทีม "จ๋องแจ๋ง โปรดักชั่น" รวมถึงอาจารย์ที่ปรึกษา
        พวกเราคือทีม “จ๋องแจ๋ง โปรดักชั่น” ประกอบด้วย นายพยัญ เลิศยานนท์ และ นางสาวกันติศา สายเชื้อ นิสิตชั้นปีที่ 2 สาขาการจัดการสมัยใหม่ คณะการบัญชีและการจัดการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยมีอาจารย์ที่ปรึกษาคือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ประทานพร จันทร์อินทร์ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จุฬารัตน์ ขันแก้ว อาจารย์ประจำสาขาวิชาการตลาด ที่คอยเป็นแรงสนับสนุนสำคัญในครั้งนี้ครับ



อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้ทีมตัดสินใจเข้าร่วมโครงการนี้?
        จริงๆ แล้วผลงานชิ้นนี้เคยถูกส่งเข้าประกวดในระดับภายในคณะมาก่อน กระทั่งในเทอมถัดมา อาจารย์ที่ปรึกษาได้เห็นศักยภาพของงานและแนะนำให้ลองพัฒนาเพื่อนำไปสู่เวทีระดับประเทศ พร้อมทั้งให้คำชี้แนะอย่างใกล้ชิด ทำให้พวกเราตัดสินใจลองก้าวออกไปท้าทายตัวเองในเวทีที่ใหญ่ขึ้น



แนวคิดหลักของผลงานที่ส่งเข้าประกวดคืออะไร และต้องการสื่อสารอะไรกับผู้ชม?
        ผลงานนี้เกิดจากการตระหนักถึงโทษของบุหรี่ โดยถ่ายทอดผ่านมุมมองที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นคนที่สูบอยู่ คนที่คิดจะลอง คนที่อยากเลิก และแม้แต่คนที่ไม่ได้สูบ เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงสารที่เราต้องการสื่อว่า “บุหรี่เพียงมวนเดียว อาจสร้างผลกระทบในวงกว้างได้”

ทีมมีวิธีการอย่างไรในการออกแบบและนำเสนอเนื้อหาให้น่าสนใจบนโซเชียลมีเดีย?
        เรามองว่าคอนเทนต์บนโลกออนไลน์ต้องโดดเด่นและแตกต่าง จึงเลือกนำเสนอผ่าน “เพลงแร็ป” ที่เข้าถึงง่าย ฟังเพลิน และสอดแทรกอารมณ์ขัน รวมถึงการใช้ภาษาถิ่นเพื่อสร้างสีสัน ได้แรงบันดาลใจจากโฆษณาเพจ “พี่เอ็ด 7 วิ” ที่ทำให้เรากล้าลองวิธีใหม่ๆ



ระหว่างการทำงาน ทีมต้องเจอกับอุปสรรคหรือความท้าทายอะไร และก้าวผ่านมันอย่างไร?
        ความท้าทายใหญ่คือการจัดการเวลา เนื่องจากวันแข่งขันในกรุงเทพฯ ไปชนกับอีกหนึ่งโครงการที่เราต้องเข้าร่วม ทำให้หลังแข่งงานแรกเสร็จ เราต้องรีบเดินทางไปสนามแข่งขันที่สองทันที เพียงลำพัง แม้จะเหนื่อยและกดดัน แต่ก็กลายเป็นประสบการณ์ล้ำค่า ที่สอนให้เรารู้จักเอาตัวรอดและปรับตัวได้ในสถานการณ์จริง



นวัตกรรมที่ทีมพัฒนาขึ้นมีความแตกต่างจากสื่อรณรงค์ทั่วไปอย่างไร?
        จุดต่างที่ชัดเจนคือรูปแบบของสื่อที่ใช้ “เพลงแร็ป” เป็นแกนหลัก ซึ่งไม่ค่อยเห็นบ่อยนักในงานรณรงค์ทั่วไป ที่สำคัญ เรามีพื้นฐานด้านดนตรีอยู่แล้ว จึงอยากดึงสิ่งที่ถนัดมาใช้ให้เกิดเอกลักษณ์และความน่าสนใจมากขึ้น
 
ความรู้สึกของทีมเมื่อได้รับรางวัลชนะเลิศ และข้อคิดจากการทำงานร่วมกันคืออะไร?
        ตอนประกาศผล เรายอมรับว่าลุ้นและตื่นเต้นมาก เพราะผลงานมีความเสี่ยงสูงจากความแปลกใหม่ กลัวว่าจะไม่ถูกใจกรรมการ แต่เมื่อได้รางวัล ความสุขและความภาคภูมิใจก็ท่วมท้น สิ่งที่เราได้เรียนรู้คือ “ไม่ว่าผลงานจะถูกมองอย่างไร สิ่งสำคัญที่สุดคือการที่เราเองภูมิใจในสิ่งที่สร้างขึ้นจากใจจริง”



 คิดว่าโครงการนี้ส่งผลกระทบต่อสังคมและการรับรู้เกี่ยวกับปัญหาบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าอย่างไรบ้าง?
        เราเชื่อว่าผลงานนี้ช่วยสื่อสารเรื่องราวได้ในแบบง่ายๆ เข้าใจง่าย และเข้าถึงคนหมู่กว้าง เป็นเหมือนการปูพื้นฐานให้ผู้ชมตระหนักถึงปัญหาที่บุหรี่ก่อขึ้น ก่อนจะต่อยอดไปสู่ความเข้าใจเชิงลึกมากยิ่งขึ้น

หลังจากนี้ ทีมมีแผนจะต่อยอดหรือพัฒนาผลงานไปในทิศทางใดต่อ?
        เรามองว่ารูปแบบสื่อนี้ยังสามารถขยายต่อไปได้อีกมาก ไม่ว่าจะเป็นการเจาะลึกข้อมูลด้านสารเคมี ผลกระทบที่ซ่อนอยู่ หรือการนำเสนอพื้นที่ปลอดบุหรี่ เพื่อสร้างการรับรู้ในหลายมิติที่เข้มข้นขึ้น


อยากฝากอะไรถึงนิสิตหรือเยาวชนที่อยากใช้สื่อสร้างสรรค์เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคมบ้าง?
        สำหรับเราสื่อสร้างสรรค์ ต้องเริ่มจากการทำสิ่งที่เรารักและมีความสุขไปกับมัน อย่ากดดันตัวเองเกินไป ทำในแบบที่ถนัด ทำในสิ่งที่ชอบ และต้องทำให้ผลงานนั้นทำให้เรายิ้มและสนุกไปพร้อมๆ กัน เพราะเมื่อเราสนุก คนดูก็จะสนุกและสัมผัสได้เช่นกัน  



        เรื่องราวความสำเร็จของทีม “จ๋องแจ๋ง โปรดักชั่น” ไม่ได้เป็นเพียงหลักฐานของพลังความคิดสร้างสรรค์และความสามารถของนิสิตเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงการสนับสนุนจากอาจารย์และสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่มหาวิทยาลัยมหาสารคามมอบให้ นี่คืออีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่า เมื่อโอกาส การเรียนรู้ และความตั้งใจถูกผสานเข้าด้วยกัน ย่อมก่อให้เกิดผลงานที่สร้างคุณค่าและส่งผลต่อสังคมได้อย่างแท้จริง
        ความสำเร็จครั้งนี้ไม่เพียงสร้างชื่อเสียงให้กับทีมและคณะเท่านั้น แต่ยังตอกย้ำภาพลักษณ์ของมหาวิทยาลัยมหาสารคามในฐานะ “มหาวิทยาลัยที่สร้างคนและสร้างงานเพื่อสังคม” ที่พร้อมส่งเสริมให้นิสิตทุกคนได้ค้นพบศักยภาพในแบบที่ตัวเองถนัด และใช้ความรู้ความสามารถในการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อไป

Author

ผู้เรียบเรียง : จุฑามาศ ภิญโญศรี
Email : [email protected]
หมายเลขติดต่อภายใน : 0942915414

ภาพประกอบบทความ

  :   ถ่ายภาพ MSU TV : กราฟิก : ปิยะฉัตร ธนภัทรธุวานันท์

Related Posts