ท่ามกลางปัญหาการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าที่กำลังแพร่หลายในสังคมเยาวชน กลุ่มนิสิตการตลาดชั้นปีที่ 4 คณะการบัญชีและการจัดการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ภายใต้ชื่อทีม “Pretty Pink” ได้รวมพลังความคิดสร้างสรรค์และองค์ความรู้ทางการตลาด มาพัฒนา “นวัตกรรมต้นแบบเพื่อการรณรงค์เลิกบุหรี่” ที่ไม่เพียงแต่ใช้เทคโนโลยีตรวจจับควันบุหรี่แบบเรียลไทม์ แต่ยังผสานกลยุทธ์การตลาดเพื่อสังคมเข้าด้วยกัน โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ประทานพร จันทร์อินทร์ คอยเป็นที่ปรึกษา ผลงานนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงความมุ่งมั่นแก้ปัญหาสังคม แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจให้เห็นว่า “นวัตกรรมเพื่อสังคม” สามารถเกิดขึ้นได้จากพลังของคนรุ่นใหม่ เบื้องหลังความคิดสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจของพวกเขาเป็นอย่างไร ติดตามได้ในบทสัมภาษณ์นี้ค่ะ
ช่วยแนะนำตัวเองและสมาชิกในทีม “Pretty Pink” และอาจารย์ที่ปรึกษา
ทีม “Pretty Pink” ประกอบด้วยนิสิตชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาการตลาด คณะการบัญชีและการจัดการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้แก่
• นางสาวกิตติญา นาแก้ว
• นางสาวเมธาวี สัพโส
• นางสาววันลดา สุดสอาด
• นายภูมินทร์ ศรีมูลเมือง
• นายธนทัต หนูตอ
• นางสาวพาขวัญ โคตรคำ
โดยมี อาจารย์ที่ปรึกษา คือ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์.ดร.ประทานพร จันทร์อินทร์ ซึ่งให้คำแนะนำและสนับสนุนตลอดการพัฒนาโครงการ

อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้ทีมเข้าร่วมโครงการนี้?
ทีมของเราเล็งเห็นว่าปัญหาการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าในหมู่นิสิตและเยาวชนเป็นเรื่องที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง แม้ว่าจะมีมาตรการควบคุม แต่พฤติกรรมการสูบยังคงแพร่หลาย โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้าที่เข้าถึงง่ายผ่านโซเชียลมีเดีย เราจึงอยากนำความรู้ทางการตลาดมาสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ช่วยกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่ตระหนักถึงอันตรายและเปลี่ยนพฤติกรรมการสูบ
นวัตกรรมต้นแบบที่ทีมพัฒนาขึ้นคืออะไร และมีแนวคิดหลักในการออกแบบอย่างไร?
นวัตกรรมต้นแบบของเราคือ “เครื่องดักจับควันบุหรี่พร้อมเสียงเตือน” ควบคู่กับ “มาสคอตน้องดุ๊กดุ๋ย” โดยแนวคิดหลักคือ การสร้างเครื่องมือที่สามารถช่วยกระตุ้นการรับรู้แบบเรียลไทม์ เมื่อมีการสูบบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้า เครื่องจะตรวจจับควันและส่งเสียงเตือน พร้อมทั้งแสดงข้อมูลเกี่ยวกับอันตรายของบุหรี่ผ่านหน้าจอที่เชื่อมต่อกับระบบ นอกจากนี้ “น้องดุ๊กดุ๋ย” มาสคอตของทีม ยังเป็นตัวกลางในการสื่อสารรณรงค์ในรูปแบบที่เข้าถึงง่ายและเป็นมิตรกับกลุ่มเป้าหมาย
ขั้นตอนการพัฒนาโปรเจกต์นี้เป็นอย่างไร และใช้ระยะเวลานานแค่ไหน?
ทีมใช้เวลาทั้งหมด ประมาณ 3 เดือน ในการพัฒนาโครงการ โดยเริ่มจาก การศึกษาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของนิสิต และ สำรวจแนวทางแก้ไขที่มีอยู่เดิม จากนั้นเราได้ ออกแบบต้นแบบเครื่องดักจับควันและพัฒนาเนื้อหาในการรณรงค์ รวมถึง ทดลองใช้งานและเก็บข้อมูลผลลัพธ์ ก่อนนำไปปรับปรุงเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
ทีมพบเจออุปสรรคหรือความท้าทายอะไรบ้างระหว่างการทำโครงการ และมีวิธีรับมืออย่างไร?
อุปสรรคหลักคือ ข้อจำกัดทางเทคนิคในการพัฒนาเครื่องดักจับควัน และ ความท้าทายในการทำให้การรณรงค์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เราแก้ปัญหาโดย ปรึกษานิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์และอาจารย์ที่ปรึกษา รวมถึง ทำการทดลองหลายรอบ เพื่อให้ได้อุปกรณ์ที่ใช้งานได้จริงและแคมเปญที่ดึงดูดความสนใจของนิสิต
อะไรคือจุดเด่นของนวัตกรรมต้นแบบของทีม ที่แตกต่างจากแนวทางรณรงค์ทั่วไป?
สิ่งที่ทำให้โครงการของเราต่างจากแนวทางรณรงค์ทั่วไปคือ “การใช้เทคโนโลยีควบคู่กับการตลาดเพื่อสังคม” เครื่องดักจับควันช่วยให้ผู้สูบตระหนักถึงผลกระทบทันทีที่มีการสูบ ขณะที่มาสคอตและแคมเปญออนไลน์ช่วยสร้างแรงจูงใจให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผ่านสื่อที่เข้าถึงง่าย
ความรู้สึกของทีมเมื่อได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 เป็นอย่างไร?
เรารู้สึก ภูมิใจและดีใจมาก ที่ความพยายามของทีมได้รับการยอมรับ รางวัลนี้ไม่ใช่เพียงเครื่องหมายของความสำเร็จ แต่เป็นกำลังใจให้เราพัฒนานวัตกรรมนี้ต่อไปเพื่อให้เกิดประโยชน์ในวงกว้าง
คิดว่านวัตกรรมนี้สามารถช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงในเรื่องบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าได้อย่างไร?
เรามั่นใจว่านวัตกรรมนี้จะช่วย สร้างการรับรู้ที่มีประสิทธิภาพ เพราะเป็นการใช้เครื่องมือที่สามารถ กระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจลดหรือเลิกบุหรี่แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ แคมเปญออนไลน์ของเรายังสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น
การเข้าร่วมโครงการนี้ให้อะไรกับทีมบ้าง ทั้งในแง่ของทักษะและประสบการณ์?
เราได้เรียนรู้ การทำงานเป็นทีม การแก้ปัญหา และการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ นอกจากนี้ ยังได้รับประสบการณ์จริงในการนำองค์ความรู้ด้านการตลาดมาใช้เพื่อ สร้างนวัตกรรมที่ช่วยแก้ไขปัญหาสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามาก
อยากฝากอะไรถึงนิสิตหรือคนรุ่นใหม่ที่อยากพัฒนาไอเดียหรือนวัตกรรมเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคม?
เราอยากให้ทุกคน กล้าที่จะคิดและลงมือทำ บางครั้งปัญหาที่ดูเหมือนแก้ไขยาก อาจมีทางออกที่สร้างสรรค์และเป็นไปได้หากเราลองมองจากมุมมองใหม่ ๆ นวัตกรรมไม่จำเป็นต้องซับซ้อนเสมอไป แต่ต้องสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้จริง