ปัจจุบัน ผู้คนหันมาใส่ใจในเรื่องของสุขภาพกันมากยิ่งขึ้นกว่าในอดีตนะคะ การเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายได้กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ จะส่งผลต่อคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันของเราได้มากพอสมควรผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ เช่น อาหารออร์แกนิก เครื่องดื่มไร้น้ำตาล หรือผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายที่มาจากธรรมชาติ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับเราในปัจจุบัน นอกจากจะช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้กับตัวเราแล้ว แต่ยังสะท้อนถึงการใช้ชีวิตที่ ใส่ใจต่อตัวเราเองรวมไปถึงการใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมด้วยความยั่งยืน ในอนาคตได้เป็นอย่างดีแล้วนั้น และอะไรที่จะเป็นตัวเลือกที่ดี ที่จะเป็นมิตรกับเรา
หลาย ท่านคงจะเริ่มจะหันมาให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์ ที่เป็นมิตรต่อสุขภาพ และสิ่งแวดล้อมมากขึ้นกันแล้วใช่มั้ยคะ การพัฒนาผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ได้กลายเป็นแนวทางสำคัญในอุตสาหกรรมความงาม และการดูแลผิวพรรณ สบู่เหลวสมุนไพร ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกซึ่งมีสารสกัดจากธรรมชาติ ที่กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภคที่มองหาทางเลือกที่ปลอดภัย และยั่งยืน
หลายท่านทราบกันมั้ยคะว่า เปลือกมังคุดที่เป็นผลไม้ที่แสนอร่อยของคนไทย นั้นสามารถนำเอามาทำอะไรได้บ้าง มีประโชน์อย่างไรบ้าง และสารสกัดจากทานาคามีคุณสมบัติอะไร และเมื่อนำของสองสิ่งนี้มารวมกันแล้ว ผลจะเป็นอย่างไร ในวันนี้สาร MSU Online จะพาทุกท่านมารู้จักกับเรื่องการพัฒนานวัตกรรมการพัฒนาตำรับสบู่เหลวสมุนไพรสารสกัดทานาคา และเปลือกมังคุด ภายใต้การดูแลของ คุณจิราภรณ์ โสดาจันทร์ นักวิจัยสังกัดแพทย์แผนไทยประยุกต์ คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
หัวข้อโครงการวิจัย : การพัฒนาตำรับสบู่เหลวสมุนไพรสารสกัดทานาคา และเปลือกมังคุด
ชื่อโครงการ /ชื่อ-สกุล ผู้รับผิดชอบ : การพัฒนาตำรับสบู่เหลวสมุนไพรสารสกัดทานาคา และเปลือกมังคุด / น.ส.จิราภรณ์ โสดาจันทร์ ที่ปรึกษาโครงการวิจัย : รศ.ดร.อำภา คนซื่อ
กล่าวถึงที่มาของการทำวิจัยชิ้นนี้
ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่พัฒนามาจากจากสมุนไพรกำลังเป็นที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน และมีการใช้กันอย่างแพร่หลาย ทานาคาก็เป็นสมุนไพรที่ถูกนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์หลายประเภท เช่น แป้งทาหน้า ครีมบำรุงผิว รวมทั้งผลิตภัณฑ์กลุ่มทำความสะอาดผิวกาย เช่น สบู่เหลว ทานาคาเป็นพืชที่ชาวเมียนมาร์นำมาใช้มานานกว่า 1,000 ปี เพื่อบำรุงผิวพรรณ มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ และฤทธิ์ในการยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสเพื่อทำให้ผิวขาว และนอกจากนี้มังคุดยังเป็นสมุนไพรที่น่าสนใจถูกนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบต่างๆเช่นกัน ในเนื้อมังคุดมีสารกลุ่มแคททีชินและฟลาวานอยด์ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ แต่ฤทธิ์น้อยกว่าเปลือกมังคุด ซึ่งจะพบสารกลุ่มแซนโทน โดยเน้นประโยชน์เรื่องการต้านอนุมูลอิสระ พญายา หรือทานาคา ถือว่าเป็นต้นไม้ประจำคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Hesperethusa crenulata (Roxb.) Roem. และมีชื่อพ้องว่า Naringi crenulata (Roxb.) Nicolson
ปัจจุบันงานสถานผลิตยาและผลิตภัณฑ์สมุนไพร คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้มีความสนใจในการพัฒนาตำรับผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรเพื่อเพิ่มมูลค่าและมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของโรงพยาบาลสุทธาเวช คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม สบู่เหลวสมุนไพรจากสารสกัดทานาคาและเปลือกมังคุดเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ผู้วิจัยสนใจนำมาพัฒนาตำรับเพื่อการใช้งาน ตลอดจนการนำสารสกัดที่ได้ไปพัฒนาเป็นตำรับสบู่เหลวสมุนไพร ที่มีการควบคุมปริมาณเชื้อจุลินทรีย์และโลหะหนัก ตลอดจนศึกษาความคงตัวของตำรับ เพื่อศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระด้วยวิธี 2,2-diphenyl-1-picylhydrazyl (DPPH) radical scavenging assay และฤทธิ์การยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสในตำรับสบู่เหลวสมุนไพรสารสกัดทานาคาและเปลือกมังคุดเพื่อเป็นการประยุกต์นำมาใช้ในงานประจำต่อไปในอนาคต
อะไรคือแรงบันดาลใจที่ทำวิจัยเรื่องนี้?
เนื่องด้วยคณะกรรมการฝ่ายบริหารเสนออยากให้มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และด้วยหน่วยงานสถานผลิตยาและผลิตภัณฑ์สมุนไพรในปัจจุบัน ได้ทำการผลิตสบู่เหลวจากสารสกัดทานาคาเพื่อใช้ในห้องพักคนไข้พิเศษโรงพยาบาลสุทธาเวช จึงเป็นที่มาให้เกิดแรงบันดาลใจเพื่อพัฒนาตำรับสบู่เหลวที่มีอยู่นั้นให้มีฤทธิ์เพิ่มขึ้นอีกด้วยกันผสมสารสกัดของเปลือกมังคุดเข้าไปเพิ่มเสริมฤทธิ์กัน และเนื่องจากเปลือกมังคุดเป็นวัตถุดิบที่มักจะถูกทิ้งหลังจากการรับประทาน จึงเป็นที่มาของการนำมาสร้างมูลค่าเพิ่ม
คุณสมบัติของสมุนไพรแต่ละชนิดมีความพิเศษอย่างไร ทำไมต้องเป็น 2 อย่างนี้ในการสกัดออกมาเป็นเป็นสบู่
เนื่องด้วยทานาคามีการใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศพม่า เช่น แป้งพม่าทาหน้าขาว ก่อนจะได้รับความนิยมนำเข้ามาใช้ในประเทศไทย และต้นพญายา หรือทานาคา ยังเป็นต้นไม้ประจำคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ส่วนสารสกัดเปลือกมังคุดมีงานวิจัยหลายชิ้นที่รายงานผลการทดสอบว่ามีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อ Propionibacterium acnes และเชื้อ Staphylococcus aureus ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดสิวที่ผิวหนัง และเปลือกมังคุดหาได้ง่ายในท้องตลาดเป็นวัตถุดิบที่ใช้หลังจากการรับประทานแล้วนั้น จึงเหมาะที่จะนำมาสร้างมูลค่าเพิ่ม