สัมภาษณ์ทีม X-Thailand: เบื้องหลังความสำเร็จในเวทีระดับโลกกับนวัตกรรม Svarna Pravah
         ท่ามกลางกระแสการพัฒนานวัตกรรมเพื่ออนาคต ทีม X-Thailand จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามได้ก้าวขึ้นเวทีระดับโลกในการแข่งขัน Creation New Mobility 2030 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ด้วยแนวคิดสร้างสรรค์ที่ผสานพลังงานสะอาดเข้ากับการขนส่งแห่งอนาคต พวกเขาไม่เพียงแค่สร้างชื่อเสียงให้มหาวิทยาลัยมหาสารคาม แต่ยังสะท้อนศักยภาพของนักวิจัยไทยในเวทีสากล วันนี้ สาร MSU ONLINE จะพาทุกท่านไปเจาะลึกเบื้องหลังความสำเร็จ ที่เต็มไปด้วยความท้าทายและแรงบันดาลใจ กับการสัมภาษณ์ ธนารักษ์ โพธิ์สิงห์ หัวหน้าทีม X-Thailand ผู้สร้างสรรค์นวัตกรรม Svarna Pravah มาติดตามกันค่ะ


แนะนำทีม X-Thailand และผู้อยู่เบื้องหลัง
        สวัสดีครับ พวกเราทีม X-Thailand ผมนายธนารักษ์ โพธิ์สิงห์ นิสิตปริญญาเอก สาขาวิศวกรรมไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ หัวหน้าทีม และสมาชิกทีม ของเรายังประกอบด้วย นางสาวจรรยวรรธน์ เสสูงเนิน (วิศวกรรมเครื่องกล), นายศุภวิชญ์ ศิริวัฒน์ (วิศวกรรมการผลิต), นายนพรัตน์ สุนทรา (วิศวกรรมการผลิต), นายไชยวัฒน์ ศรีจันทร์ (วิศวกรรมไฟฟ้า) และนางสาวศิริกานดา สุทธิ์จักร์ (วิศวกรรมการผลิต) พวกเราเป็นนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ครับ
        ทีมได้รับคำปรึกษาจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สริญญา ศาลางาม, รองศาสตราจารย์ ดร.ชลธี โพธิ์ทอง จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และนายปริญญา เลิศประเสริฐ ประธานบริษัท แอล.บี. โซลูชั่น เทคโนโลยี จำกัด ครับ



คว้ารางวัลระดับโลกกับนวัตกรรมพลังงานสะอาด
        พวกเราได้รับรางวัล Special Award จากกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (Ministry of Tourism)  เป็น 1 ใน 6 ทีม ที่ได้รับรางวัล จากทั้งหมด 39 ทีม ซึ่งการแข่งขันนี้ จัดขึ้นโดย สมาคมส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าประเทศญี่ปุ่น (APEV) ในหัวข้อ Creation New Mobility 2030 ในโจทย์การขนส่งแห่งอนาคต ด้วยนวัตกรรมพลังงานสะอาด ซึ่งจัดขึ้นที่ มหาวิทยาลัย University of Tokyo กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นครับ



อยากให้เล่าถึงการเตรียมตัว  ระยะเวลาในการดำเนินการ ตลอดจนปัญหาและอุปสรรค เป็นอย่างไรบ้าง?
        การแข่งขันนี้มีระยะเวลาการทำงานตั้งแต่เริ่มในเดือน มิถุนายน จนถึง เดือนพฤษจิกายน เป็นเวลา 6 เดือน ประกอบไปด้วย 2 กิจกรรม WorkShop และวันแข่งขัน ซึ่งตลอดระยะเวลาของการทำงานอย่างหนักของพวกเรา พบเจอปัญหาและอุปสรรคต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบโครงการและเนื้อหา การปรับปรุงและปรับเปลี่ยนข้อมูลเพื่อให้สอดคล้องกับโจทย์ เนื่องจากเราไม่ได้ทำงานเพียงทีมเดียวเท่านั้น แต่ยังร่วมมือกับทีมจากประเทศอินเดียอีก 2 ทีม ซึ่งทั้ง 2 ทีมนี้มีบทบาททางด้านการออกแบบเรือไฟฟ้าและจักรยานไฟฟ้าครับ



แนวคิดเบื้องหลังนวัตกรรม ในการพัฒนานวัตกรรม Svarna Pravah 
        การแข่งขัน Creation New Mobility 2030 ในโจทย์การขนส่งแห่งอนาคต ด้วยนวัตกรรมพลังงานสะอาด พวกเราเล็งเห็นการเคลื่อนย้ายในโลกอนาคต ปี 2030 ด้วยพลังงานสะอาด ซึ่งทีมของพวกเราจึงเลือกการจำลองสถานที่แห่งหนึ่งขึ้นมาเพื่อให้เป็นเมืองแห่งการ Mobility โดยเราเลือกสถานที่แห่งนั้นในประเทศไทย ซึ่งขึ้นชื่อด้านการท่องเที่ยวในสายตาชาวต่างชาติอยู่แล้ว แต่ยังคงมีบางสถานที่ ที่มีทั้งวัฒนธรรม ความสำคัญของพื้นที่ และความสวยงาม ที่ชาวต่างชาติหรือคนไทยอาจจะไม่ได้เล็งเห็น นั้นก็คือ “แม่น้ำโขง” แหล่งมรดกวัฒนธรรมที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน และแม่น้ำโขงยังมีความสำคัญทางด้านภูมิศาสตร์ระหว่างประเทศ ถึง 6 ประเทศ และมีความเป็นไปได้สำหรับการเคลื่อนย้ายต่างๆในอนาคตปี 2030




        ดังนั้นพวกเราจึงเลือก บริเวณนั้น ว่าสถานที่เมือง “X-Thailand” โดยในสถานที่แห่งนี้จะประกอบไปด้วย ทริปทัวร์ที่มุ่งเน้นทางด้าน Eco River Trip, Eco Friendly, Eco System โดยมีการให้สอดคล้องกับปี 2030 ไม่ว่าจะเป็น การนำเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาช่วยให้สถานที่แห่งนี้ มีศักยภาพในการขนส่ง การเดินทาง การเคลื่อนย้ายต่างๆ ระบบเศรษกิจ ที่ดียิ่งขึ้น จึงก่อให้เกิดโครงการที่มีชื่อว่า “Svarna Pravah” ในภาษาสันสกฤตแปลว่า "การไหลของทองคำ" ซึ่งคำว่า "Svarna" หมายถึง "ทอง" และ "Pravah" หมายถึง "การไหล" หรือ "กระแส" สื่อถึงการไหลของสิ่งที่มีค่า เช่น แม่น้ำที่ไหลระยิบระยับดั่งทอง ความเจริญรุ่งเรือง ความรู้ หรือพรที่ไหลมาอย่างต่อเนื่องหากเปรียบง่ายๆ Svarna Pravah คือสถานที่ที่เปี่ยมไปด้วย Eco Mobility เศรฐกิจและวัฒนธรรม



การทำงานเป็นทีมเพื่อความสำเร็จ 
        เนื่องจากโครงการ Svarna Pravah เป็นโครงการที่ใหญ่ เราได้มีการแบ่งหน้าที่การทำงานไว้หลักๆ 3 หน้าที่ คือ 1) ทีมจัดเตรียมข้อมูลต่างๆ 2). ทีมติดต่อประสานงานกับ APEV และทีมจากประเทศอินเดีย 3) ทีมจัดทำสไลด์และรายงาน โดยความท้าทายของพวกเราก็คือประสบการณ์ เนื่องจากสมาชิกทีมส่วนใหญ่ผ่านการทำงาน การแข่งขันนอกประเทศยังไม่มากพอ และส่วนใหญ่ก็เป็นการทำงานลักษณะนี้ครั้งแรก 



ในส่วนของคณะ/มหาวิทยาลัย  มีส่วนช่วยในการสนับสนุนอย่างไรบ้าง
        คณะวิศวกรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีส่วนช่วยอย่างมากให้พวกเรานำรางวัลที่ทรงคุณค่านี้กลับมายังมหาวิทยาลัยของเราได้ เพราะได้รับการช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็น องค์ความรู้ บุคลากรที่คอยให้คำปรึกษา เงินสนับสนุน และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งพวกเราขอขอบคุณมากๆครับ



ความรู้สึกที่ได้รับรางวัลนี้
        หลังประกาศผล พวกเราเต็มเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจ และพวกเรารู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เพราะพวกเราในทีมทุกคนทำงานกันอย่างหนัก และพวกเราหวังว่าจะสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับคณะ มหาวิทยาลัย ได้ไม่มากก็น้อย ซึ่งพวกเราทำมันได้และนำรางวัลกลับสู่มหาวิทยาลัยมหาสารคามของเราครับ



ประสบการณ์ที่ได้จากการแข่งขัน Creation New Mobility 2030 
        เป็นประสบการณ์ที่ผมคิดว่าพวกเราทุกๆคนในทีมจะไม่มีวันลืมเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์การทำงาน การร่วมมือกันกับต่างประเทศ การใช้ภาษา การสื่อสาร การทำงานเป็นทีม ซึ่งประสบการณ์เหล่านี้มีค่ามากๆครับ



อนาคตของ Svarna Pravah และการต่อยอด
        Svarna Pravah สามารถต่อยอดไปได้อีกมากมายครับ โดยเฉพาะขยายจากสิ่งที่พวกเราทำอยู่ปัจจุบัน คือในประเทศไทย ออกไปยัง 6 ประเทศในลุ่มน้ำโขง ซึ่งจะเกิดการสร้างความร่วมมือกันทางด้าน ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เศรษฐกิจ การขนส่ง นวัตกรรม เทคโนโลยี การเดินทาง วัฒนธรรม และอื่นๆอีกมากมาย ครับ



อยากฝากอะไรถึงนิสิตหรือเยาวชนที่สนใจด้านนวัตกรรมและพลังงานสะอาด เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ
        สุดท้ายนี้อยากฝากถึงนิสิตหรือเยาวชนทุกๆคนที่สนใจว่า อย่าหยุดที่จะไขว่คว้า หาความรู้ หาโอกาส ประสบการณ์ใหม่ๆ ซึ่งมันจะส่งผลดีกับตัวเองมากๆ ไม่ว่าประสบการณ์นั้นมันจะออกมาในรูปแบบไหน มันจะมีด้านดีกับเราเสมอ ขอบคุณครับ

       ทีม X-Thailand  จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า นวัตกรรมและความมุ่งมั่น สามารถสร้างชื่อเสียงให้มหาวิทยาลัยและประเทศในเวทีระดับโลกได้อย่างภาคภูมิ!








     

Author

ผู้เรียบเรียง : จุฑามาศ ภิญโญศรี
Email : jutamas.p@msu.ac.th
หมายเลขติดต่อภายใน : 0942915414

ภาพประกอบบทความ

  :   กราฟิก : ปิยะฉัตร ธนภัทรธุวานันท์

Related Posts