ประเทศไทยมีความหลากหลายทางชีวภาพมากมาย โดยเฉพาะในเขตชนบทที่ประชาชนยังคงพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติในชีวิตประจำวัน การเก็บเห็ดป่ามาใช้ประกอบอาหารถือเป็นวัฒนธรรมพื้นถิ่นที่มีมาอย่างยาวนาน แต่ในขณะเดียวกันก็แฝงด้วยความเสี่ยงจากการบริโภคเห็ดพิษที่ไม่สามารถแยกแยะได้ด้วยสายตา ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตด้วยปัญหาดังกล่าวและความจำเป็นในการเข้าถึงข้อมูลอย่างถูกต้องและรวดเร็ว ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีการร่วมมือกับนักวิจัยจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข คิดค้น แอปพลิเคชันตรวจสอบเห็ด จึงได้พัฒนาแอปพลิเคชัน “คัดแยกเห็ดไทย” แอปของคนไทยสำหรับคนไทยจากโครงการวิจัย ขึ้นมา เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการช่วยจำแนกชนิดของเห็ดอย่างถูกต้อง ผ่านการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ผสมผสานกับฐานข้อมูลเห็ดในประเทศไทย โดยมุ่งหวังให้เป็นนวัตกรรมที่ช่วยยกระดับความปลอดภัยของประชาชน และส่งเสริมการเรียนรู้ด้านทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนแอปพลิเคชันนี้ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ด้านความปลอดภัยในการบริโภคเท่านั้น แต่ยังเป็นการต่อยอดองค์ความรู้ด้านชีววิทยาและเทคโนโลยีสารสนเทศ สู่การใช้งานจริงในชีวิตประจำวันของคนในชุมชน ซึ่งบทความนี้จะพาผู้อ่านไปรู้จักกับที่มา แนวคิด และประโยชน์ของผลงานวิจัยชิ้นสำคัญนี้อย่างใกล้ชิด



จากโครงการวิจัย โครงการบูรณาการฐานข้อมูลสู่นวัตกรรม Application Mushroom Image Matching เห็ดพิษและเห็ดรับประทานได้ ปีพ.ศ. 2560-2563 ภายใต้บันทึกข้อตกลงความเข้าใจความร่วมมือทางวิชาการ (MoU) ระหว่างกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และ พิพิธภัณฑ์เห็ดที่มีฤทธิ์ทางยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดยรองศาสตราจารย์ ดร.ขวัญุเรือน นาคสุวรรณ์กุล อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

ชื่อผลงาน
แอปพลิเคชันตรวจสอบเห็ด “คัดแยกเห็ดไทย”


ที่มาของการทำแอปพลิเคชันตรวจสอบเห็ด “คัดแยกเห็ดไทย”
ที่มาของการคิดเริ่มทำแอปพลิเคชันตรวจสอบเห็ด “คัดแยกเห็ดไทย”ขึ้นมาเนื่องจากมีคนเจ็บป่วยจากการได้รับสารพิษจากเห็ดมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจากรายงานของกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ย้อนหลังกลับไป 5 ปี จำนวนของคนที่รับประทานเห็ดพิษเพิ่มมากขึ้นทุกปีอย่างต่อเนื่อง และมีผู้เสียชีวิตกว่า 30 คน และมีผู้ที่เจ็บป่วยอีกจำนวนมากจากการรับประทานเห็ดพิษมากกว่า 6,000 ราย เมื่อเกิดเหตุเจ็บป่วยหรือมีอาการอาหารเป็นพิษจากการรับประทานเห็ด เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในชุมชน ได้แก่ รพ.สต. หรือโรงพยาบาลต้องทำการสอบสวนโรคและเก็บตัวอย่างอาหารที่เหลือจากการรับประทานหรือตัวอย่างเห็ดส่งตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เพื่อตรวจหาและระบุสารพิษ และส่งผลตรวจกลับมายังโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ดูแลผู้ป่วยให้ถูกวิธี เลยมองว่าเราจะมีวิธีทำอย่างไร เพื่อจะให้ลดจำนวนของผู้ป่วยที่กินเห็ดพิษให้น้อยลง 


        ก่อนหน้านี้มีการจัดอบรมเรื่องเห็ดทั่วไป และมีการตั้งข้อสังเกตว่าในปัจจุบันเรามีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือ ซึ่งในปัจจุบันจะมีการใช้สมาร์ทโฟน เราน่าจะมีการพัฒนาแอปพลิเคชันขึ้นมาเพื่อใช้สแกนแยกชนิดของเห็ดลองดูบ้าง โดยใช้ลักษณะทางสัณฐานวิทยาของเห็ดที่มีความแตกต่างกันเป็นตัวแยกชนิด เราจึงใช้รูปภาพเห็ดพิษที่พบบ่อยในป่าธรรมชาติและภาพเห็ดรับประทานได้ซึ่งส่วนใหญ่มีจำหน่ายในตลาดในช่วงฤดูฝนใส่ในฐานข้อมูล เพื่อให้โปรแกรมที่พัฒนาขึ้นจดจำลักษณะที่สำคัญแล้วนำไปเปรียบเทียบกับเห็ดที่ต้องการสแกน

วัตถุประสงค์ แอปพลิเคชันตรวจสอบเห็ด “คัดแยกเห็ดไทย”
     วัตถุประสงค์ แอปพลิเคชันตรวจสอบเห็ด “คัดแยกเห็ดไทย” เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยเบื้องต้นในการเลือกรับประทานเห็ดจากป่าธรรมชาติ เป็นการลดจำนวนผู้ป่วยที่มีการบริโภคเห็ดมีพิษและเฝ้าระวังในชุมชน



จุดเด่นของแอปพลิเคชันตรวจสอบเห็ด “คัดแยกเห็ดไทย”
        แอปพลิเคชันตรวจสอบเห็ด “คัดแยกเห็ดไทย” มีความสะดวกสบาย ใช้ง่าย ใครก็สามารถใช้ได้ เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นตรวจสอบเห็ด “คัดแยกเห็ดไทย” ลงมาในโทรศัพท์มือถือแบบ Android ของเราเท่านั้น และเมื่อติดตั้งโปรแกรมในโทรศัพท์มือถือแล้วแม้ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตก็ใช้แอปพลิเคชั่นนี้ได้ โดยที่เราไม่จำเป็นจะต้องมีความรู้เรื่องเห็ด เราก็สามารถใช้แอปนี้ได้เลย 


       
        เมื่อเราเริ่มสแกนเห็ดที่ต้องการทราบชนิด โปรแกรมจะประมวลผลเป็นแบบ Real time และทำการเปรียบเทียบลักษณะทางสัณฐานวิทยากับรูปภาพที่มีอยู่ในฐานข้อมูล การประมวลผลความถูกต้องจะบอกเป็นตัวเลขโดยบอกเป็นร้อยละของความถูกต้อง เมื่อโปรแกรมสามารถเปรียบเทียบความเหมือนของเห็ดได้ที่ร้อยละ 95 โปรแกรมจะหยุดและแสดงภาพเห็ดพร้อมชื่อบนหน้าจอ โดยแสดงชื่อเห็ด 2 ชนิด หากพบว่าเห็ดที่สแกนเป็นเห็ดมีพิษจะมีโลโก้หัวกะโหลกสีแดงเตือนในภาพ ส่วนเห็ดที่รับประทานได้โลโก้จะเป็นรูปช้อนส้อมและมีสีเขียว นอกจากนี้ยังสามารถกดดูข้อมูลเพิ่มเติมได้อีกชั้นหนึ่งจากชื่อเห็ดที่แสดง ได้แก่ ข้อมูลชื่อพื้นเมือง ชื่อวิทยาศาสตร์ ลักษณะที่สำคัญ กลุ่มของสารพิษ อาการที่แสดงหลังรับประทานเห็ดพิษชนิดดังกล่าวและการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อมีอาการอาหารเป็นพิษจากการรับประทานเห็ดพิษ



วิธีการใช้ แอปพลิเคชันตรวจสอบเห็ด “คัดแยกเห็ดไทย”
วิธีการใช้แอปพลิเคชั่นตรวจสอบเห็ด “คัดแยกเห็ดไทย”ง่ายมาก คือเมื่อเราไปพบเห็ดที่เรายังไม่แน่ใจว่าเป็นเห็ดชนิดไหนนั้น เพียงเราเปิดแอปพลิเคชั่นตรวจสอบเห็ด “คัดแยกเห็ดไทย”แล้วสแกนไปที่ดอกเห็ดที่เราพบนั้น แอปก็จะประมวลผลโดยการเปรียบเทียบกับรูปภาพในฐานข้อมูล โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นได้ 2 ช่องทาง
ช่องทางที่ 1 เลือกจาก  Google Play ค้นหาคำว่า “คัดแยกเห็ดไทย”
ช่องทางที่ 2 สแกนคิวอาร์โค้ด
วิธีการเข้าใช้
   1.เปิดแอป
   2.ลงทะเบียนการใช้แอป
   3.เปิดกล้องเพื่อเตรียมสแกนดอกเห็ดที่ต้องการทราบชนิด
   4.โปรแกรมจะเริ่มประมวลผล และจะหยุดพร้อมแสดงภาพเห็ดเมื่อความถูกต้องของชนิดเห็ดอยู่ที่ ร้อยละ 95 
   5.เมื่อแอปพลิเคชั่นประมวลผลเรียบร้อย จะแสดงผลว่า หากเป็นเห็ดชนิดมีพิษจะขึ้นตัวหัวกะโหลกสีแดง หรือเห็ดที่สามารถรับประทานได้จะขึ้นภาพรูปช้อนส้อมสีเขียวมาพร้อมกับชื่อเห็ด
   6.สามารถกดเข้าไปดูข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับเห็ดได้เพิ่มเติมจากชื่อเห็ดที่แสดง
   7.แอปพลิเคชันสามารถใช้งานได้โดยไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตเมื่อดาวน์โหลดโปรแกรมมาติดตั้งบนโทรศัพท์มือถือเรียบร้อยแล้ว



มีแผนพัฒนา แอปพลิเคชันตรวจสอบเห็ด “คัดแยกเห็ดไทย” ต่อไปอย่างไร
     แผนในการพัฒนาแอปนั้น หัวใจสำคัญของการมีแอปคือการมีฐานข้อมูลของชนิดเห็ดที่ถูกต้องและมีรูปภาพจำนวนมากเพื่อใช้เปรียบเทียบ แอปถึงจะมีประสิทธภาพสูงและมีความถูกต้องแม่นยำ หากเรามีฐานข้อมูลรูปภาพน้อยก็จะทำให้การประมวลผลชนิดของเห็ดต่ำ หรือมีความแม่นยำน้อยลง ปัจจุบันตัวแอปพลิเคชั่นนั้นดีอยู่แล้ว เพียงแต่เราต้องการจะพัฒนาให้มีประสิทธิภาพในการใช้งานเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจึงจำเป็นต้องไปเพิ่มข้อมูลในฐานข้อมูลให้มีจำนวนมากขึ้น ซึ่งตอนนี้ในแอปพลิเคชั่นมีกลุ่มเห็ดพิษและเห็ดรับประทานได้จำนวน 14 กลุ่ม ในอนาคตทีมนักวิจัยมีความเห็นพ้องกันว่าควรเพิ่มจำนวนชนิดของเห็ดที่พบในป่าธรรมชาติให้มีมากขึ้นอีกและข้อมูลชนิดเห็ดที่ชาวบ้านเก็บมาขายในตลาดในช่วงฤดูฝน ยกเว้นเห็ดเศรษฐกิจที่ผลิตจากฟาร์มเห็ด เนื่องจากแอปพลิเคชั่นนี้มุ่งเน้นการใช้งานกับเห็ดจากป่าธรรมชาติ



พบปัญหา และอุปสรรคค์ การสร้าง แอปพลิเคชั่นตรวจสอบเห็ด “คัดแยกเห็ดไทย” หรือไม่
ครั้งแรกเรามีการพัฒนาแอปเวอร์ชั่น ที่ 1 ขึ้นมานั้น เราใช้รูปภาพเห็ดทั้งหมดที่มีอยู่ใส่ในฐานข้อมูล ปรากฏว่าเมื่อโปรแกรมเริ่มประมวลผลทำงานได้ช้ามาก และจำนวนข้อมูลรูปภาพในแต่ละชนิดมีไม่เท่ากัน ดังนั้นเมื่อแอปเริ่มสแกนเพื่อเปรียบเทียบลักษณะชนิดของเห็ดที่มีรูปภาพจำนวนน้อยก็อาจมีลักษณะไม่ตรงกับชนิดของเห็ดนั้นๆ ทั้งๆ ที่เป็นชนิดเดียวกัน โปรแกรมก็จะไปเปรียบเทียบลักษณะอื่นจากเห็ดที่มีจำนวนรูปภาพมากกว่า 


       
         จากนั้นเรามีการพิจารณาว่าเราจะต้องมีการปรับปรุงใหม่ และโปรมแกรมเมอร์ในทีมวิจัยเสนอแนะให้ใช้จำนวนข้อมูลภาพ 1,000 ภาพ ต่อเห็ด 1 ชนิด และมีจำนวนเท่ากันทุกชนิด เพื่อความไม่ลำเอียงในการประมวลผลเปรียบเทียบชนิดของเห็ด จึงได้แอปพลิเคชั่นเวอร์ชั่นที่ 2 ต่อมาได้พัฒนาเวอร์ชั่นที่ 3 โดยการให้โปรแกรมสามารถเปรียบเทียบลักษณะจากภาพถ่ายเห็ด เช่น มีคนส่งภาพเห็ดมาให้ในโทรศัพท์มือถือ เราสามารถนำภาพนั้นไปใช้แอปเพื่อสแกนหาชื่อเห็ดได้เลย โดยโปรแกรมการสแกนแบบ real time ยังคงมีอยู่เช่นเดิม แต่เวอชั่นนี้พบปัญหาคือ เมื่อดาวน์โหลดรูปภาพไปเพื่อให้โปรแกรมสแกนเปรียบเทียบรูปภาพจะกลับหัวและสัดส่วนของภาพผิดเพี้ยนไปจึงยกเลิกเวอร์ชั่นที่ 3 รอการปรับปรุง ปัจจุบันจึงใช้แอปพลิเคชั่นเวอร์ชั่นที่ 2 เท่านั้น


        นอกจากนี้อุปสรรคในการทำงานที่พบคือ การเจริญของเห็ดในแต่ละปีไม่มีเวลาที่แน่นอน เช่น บางปีเห็ดพิษชนิดหนึ่งเจริญและพบดอกเห็ดในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม แต่ปีถัดมาเราไปตามหาเพื่อถ่ายภาพและเก็บตัวอย่างเพิ่มเติมกลับไม่พบเจอในพื้นที่เดิม และบางช่วงเวลาทีี่เรากำหนดออกภาคสนามกลับไม่พบเห็ดเลยเนื่องจากฝนไม่ตกหรือบางครั้งเห็ดก็ย่อยสลายไปหมดแล้ว เนื่องจากเราต้องออกภาคสนามทั่วประเทศโดยเฉพาะพื้นที่ที่มีรายงานการเจ็บป่วยจากรับประทานเห็ดพิษ ดังนั้นทีมวิจัยจึงต้องทำงานแข่งกับเวลาเพื่อที่จะได้ข้อมูลให้มากที่สุดและครบถ้วนที่สุด



มีแผนในการนำ แอปพลิเคชันตรวจสอบเห็ด “คัดแยกเห็ดไทย” ถ่ายทอดลงสู่ชุมชนอย่างไร
        ในปัจจุบันทีมนักวิจัยได้ดำเนินการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับการศึกษาลักษณะทางสัณฐานวิทยาของเห็ดและการใช้แอปพลิเคชั่นตรวจสอบเห็ด โดยโครงการวิจัยนี้ได้จัดทำ “คู่มือการศึกษาลักษณะทางสัณฐานวิทยาของเห็ด เห็ดพิษและการเฝ้าระวังในชุมชน” ขึ้นเพื่อประโยชน์แก่ผู้สนใจเห็ดทั่วไปและเพื่อใช้อบรม โดยมีผู้เข้าร่วมอบรม ได้แก่ เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ชุมชน คือ เจ้าหน้าที่ อสม.(อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน) และเจ้าหน้าที่ใน รพ.สต. (โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล) ก่อนอันดับแรก เนื่องจาก อสม. นั้นจะมีความใก้ลชิดกับชุมชนอยู่แล้ว หากมีเหตุการณ์พบผู้ป่วยที่รับประทานเห็ดมีพิษขึ้นในชุมชน เจ้าหน้าที่ อสม.จะเป็นคนที่ทราบลำดับแรก และส่งต่อมาที่เจ้าหน้าที่ รพ.สต. จะต้องมีการคัดกรองโดยการสอบสวนโรคอย่างละเอียด พร้อมนำส่งอาหารที่เหลือรับประทานและตัวอย่างเห็ดให้แก่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อตรวจหาชนิดของสารพิษว่าเป็นพิษชนิดใดและส่งข้อมูลผลตรวจกลับมายังโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ช่วยเหลือผู้ป่วยได้อย่างถูกต้อง เราจึงต้องนำ แอปพลิเคชั่นตรวจสอบเห็ด “คัดแยกเห็ดไทย” ไปถ่ายทอดกับเจ้าหน้าที่ อสม. และเจ้าหน้าที่ รพ.สต. เพื่อเจ้าหน้าที่เหล่านี้จะได้ช่วยเหลือและถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับชาวบ้านอีกทางหนึ่ง หรือหากชาวบ้านไม่มีโทรศัพท์ที่เป็นสมาทโพนอาจจะให้เจ้าหน้าที่ อสม. หรือเจ้าหน้าที่ รพ.สต. ช่วยสแกนตรวจสอบชนิดของเห็ดที่ชาวบ้านเก็บมาจากป่าธรรมชาติก่อนนำไปปรุงอาหารได้ 


       
         ในส่วนของมหาวิทยาลัย ตนเองได้นำเรื่องแอปพลิเคชันตรวจสอบเห็ด “คัดแยกเห็ดไทย”เพิ่มลงในหลักสูตรการเรียนการสอน ในรายวิชาที่เป็นหลักสูตรที่อยู่ในภาควิชาชีววิทยา เพื่อให้นิสิตได้เรียนรู้เกี่ยวกับเห็ดพิษและเห็ดรับประทานได้และตระหนักถึงอันตรายจากการรับประทานเห็ดพิษ และนิสิตที่ผ่านการใช้แอปพลิเคชั่นนี้ยัง เป็นกระบอกเสียงที่สำคัญ อีกทั้งสามารถนำกลับไปถ่ายทอดวิธีการใช้แอปพลิเคชั่นนี้ต่อที่บ้านได้อีก นอกจากนี้คณะวิทยาศาสตร์ได้มีโครงการสนับสนุนการจัดตั้งห้องเรียนวิทยาศาสตร์ในโรงเรียนมัธยม โดยการกำกับดูแลของมหาวิทยาลัย หรือ โครงการ วมว. ขึ้นในโรงเรียนสาธิตมัธยมแห่งมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้มีการจัดหลักสูตรการเรียนรู้ มีการสอนในรายวิชา วิทยาศาสตร์กับภูมิปัญญาท้องถิ่น ตัวเองเป็นผู้สอนในรายวิชาดังกล่าวจึงได้นำหัวข้อการเรียนรู้เกี่ยวกับเห็ดตามภูมิปัญญาท้องถิ่นและการใช้แอปพลิเคชั่นตรวจสอบเห็ด ไปสอนให้นักเรียนได้ศึกษาเกี่ยวกับเห็ดในท้องถิ่นทั้งเห็ดพิษและเห็ดรับประทานได้เพื่อเป็นการเฝ้าระวังการรับประทานเห็ดพิษที่เก็บจากป่าธรรมชาติในครอบครัวและในชุมชนต่อไปในอนาคตได้



มหาวิทยาลัยมีการสนับสนุนงานวิจัยอย่างไร
ต้องขอขอบคุณมหาวิทยาลัยมหาสารคามอย่างมาก ที่สนับสนุนการทำงานวิจัยนี้ภายใต้ความร่วมมือ MoU ระหว่างมหาวิทยาลัยมหาสารคามและกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขอย่างมาก อีกทั้งมหาวิทยาลัยยังมีศูนย์การเรียนรู้เกี่ยวกับเห็ด คือ พิพิธภัณฑ์เห็ดที่มีฤทธิ์ทางยา ตั้งอยู่ที่คณะวิทยาศาสตร์ ซึ่งที่พิพิธภัณฑ์เห็ดฯ นอกจากจะมีตัวอย่างเห็ดแห้งและเห็ดที่ดองไว้ในสารละลายซึ่งเป็นตัวอย่างอ้างอิงเพื่อการเรียนการสอนและการวิจัยแล้ว ยังมีเห็ดไว้จัดแสดงเพื่อเปิดให้เยี่ยมชม และมีฐานข้อมูลชนิดของเห็ด ชื่อวิทยาศาสตร์ ฐานข้อมูลรูปภาพ ข้อมูลลักษณะทางกายภาพและแหล่งอาศัยของเห็ด ที่เราเดินป่าสำรวจชนิดของเห็ดทั่วทั้งประเทศตลอดระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา เราเลยมีข้อมูลเห็ดจำนวนหนึ่งที่สามารถนำมาพัฒนาแอปพลิเคชั่นตรวจสอบเห็ด “คัดแยกเห็ดไทย” ให้ดียิ่งขึ้น



 ฝากอะไรถึงนักวิจัยรุ่นใหม่
อยากให้นักวิจัยรุ่นใหม่ทุกคนค้นหางานวิจัยที่ตัวเองตกหลุมรักและชอบเป็นพิเศษ มุ่งมั่นในการทำงานสิ่งนั้น มีเป้าหมายและมีความสุขกับการทำงาน แสวงหาเพื่อนร่วมงานที่ตกหลุมรักในสิ่งเดียวกัน

ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่
ศาสตราจารย์ ดร.ขวัญุเรือน นาคสุวรรณ์กุล อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
เบอรโทรศัพท์ 043-754247-8
หรือ
กองประชาสัมพันธ์และกิจการต่างประเทศฯ
เบอร์โทรศัพท์ 043-754315

Author

ผู้เรียบเรียง : สินีนาฎ พรั่งพร้อมกุล
Email : [email protected]
หมายเลขติดต่อภายใน : 0-4375-4315 (ภายใน) 1722

ภาพประกอบบทความ

  :   ถ่ายภาพ :คุณ สินีนาฎ พรั่งพร้อมกุล /ภาพถ่ายจาก/ คุณบุณฑริกา ภูผาหลวง /กราฟิก:คุณปิยะฉัตร ธนภัทรธุวานันท์

Related Posts