แนะนำตัว : เภสัชกร ธุรกิจ พันธะศรี (บอส) บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหรียญทอง สาขาวิชาการบริบาลทางเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประจำปีการศึกษา 2565 ด้วยระดับคะแนนเฉลี่ยสะสม 3.90 ปัจจุบันทำงานเป็นเภสัชกรที่โรงพยาบาลชุมแพครับ
ความภาคภูมิใจในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม : ที่มีหลักสูตรการเรียนการสอนที่เป็นมาตรฐานในระดับสากล อาจารย์เป็นกันเองดูแลนิสิตเป็นอย่างดีทั้งด้านความรู้และจิตใจ นอกจากนี้ยังทำให้ได้เจอเพื่อนสนิทที่จริงใจหลายๆ คนครับ และเป็นมหาวิทยาลัยใกล้บ้านครับ :)
เคล็ดลับการเรียน : หลังจากเรียนเสร็จในทุกๆวันจะพยายามทำสรุปให้ได้ในทุกๆวิชาที่เรียนไปของวันนั้น โดยเฉพาะวิชาที่มีเนื้อหาเยอะๆต้องทำสรุปทุกบทที่เรียนไปครับ (ส่วนตัวชอบทำสรุปลงในกระดาษมากกว่า ipad) แล้วช่วงก่อนสอบประมาณ 1-2 สัปดาห์ จะนำสรุปออกมาอ่านคู่กับชีทที่อาจารย์สอนอีกที หากมีเนื้อหาไหนที่ตกหล่นไปจะได้ทบทวนเพิ่มเติมครับ
การจัดการความเครียดหรือปัญหาต่างๆที่เราเจอในระหว่างที่เรียนอยู่ : พยายามไม่อยู่กับการเรียนการอ่านหนังสืออย่างเดียวคับ ต้องหากิจกรรมอื่นๆทำ เช่น กิจกรรมต่างๆของคณะและมหาวิทยาลัย ไปเล่นกับเพื่อน เล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง ช่วยได้มากเลยครับ
คติประจำใจที่ทำให้เราประสบความสำเร็จ : ความสำเร็จทุกๆ อย่างเกิดขึ้นได้จากความพยายาม และอย่าหยุดพัฒนาตัวเองในทุกๆวัน
แนะนำตัว : นายสุริยา นัดทะยาย (สุดเขต) บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหรียญทอง สาขาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประจำปีการศึกษา 2565 ด้วยระดับคะแนนเฉลี่ยสะสม 3.88
ความภาคภูมิใจในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ถือว่าเป็นมหาลัยหนึ่งที่มีชื่อเสียงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและเป็นมหาลัยที่มีคุณภาพแห่งหนึ่ง ผมรู้สึกภาคภูมิใจและดีใจมากที่ได้มาเรียนที่นี่ ได้เรียนกับอาจารย์ที่มากไปด้วยความรู้ความสามารถและประสบการณ์ ซึ่งท่านก็ได้นำมาถ่ายทอดลูกศิษย์ได้เป็นอย่างดี อาจารย์ก็เป็นมิตรและคอยให้คำปรึกษาเป็นอย่างดีทั้งเรื่องเรียนและเรื่องของการใช้ชีวิต และที่นี่ทำให้ผมได้ Connection กับเพื่อนๆ พี่ๆ ครับ
ขอใช้พื้นที่นี้เล่าความประทับใจสักนิดนะครับ ผมได้มีโอกาสติวหนังสือให้กับเพื่อนๆ หลายคนมาก (มากสุด 30-40คน) แต่ผมไม่ได้คิดค่าติวสักบาท เพราะผมอยากช่วยเพื่อนจริงๆ ผมเห็นหลายคนผิดหวังกับการเรียนบางคนร้องไห้มาขอให้ผมช่วย ผมจึงมีความคิดที่อยากจะติวให้เพื่อนสำหรับคนที่เรียนไม่เข้าใจหรือไม่มีเพื่อนอ่านหนังสือ ซึ่งผมก็ทำแบบนั้นมาตั้งแต่ปี 1 จนจบปี 4 และผมก็รู้สึกดีใจที่ทำให้หลายคนกลับมามีความหวังกับการเรียน ผมรู้สึกดีใจที่เห็นหลายคนมีผลการเรียนดีขึ้นทุกเทอม ผมรู้สึกดีใจที่ได้รับมิตรภาพที่ดีจากเพื่อนในคณะหลายๆคน และผมก็รู้สึกภูมิใจที่ได้มีส่วนช่วยให้เพื่อนๆ ได้เรียนจบปี 4 ไปด้วยกันครับ
เคล็ดลับการเรียน : เนื่องจากผมเป็นคนเข้าใจช้าและไม่สามารถเรียนเข้าใจในรอบเดียว ผมจึงใช้วิธีการต่อไปนี้
1) ตั้งใจฟังพร้อมอัดคลิปตอนอาจารย์สอนใน Classและผมจะไม่จดอะไรเลยระหว่างนั้นเพราะผมเขียนช้าแล้วทำให้ตามอาจารย์ไม่ทัน ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ผมเห็นภาพรวมของหัวข้อนั้นๆ 2) หลังเรียนเสร็จผมจะกลับมาเปิดดูคลิปที่อาจารย์สอนและค่อยๆ ทำความเข้าใจทีละ Step ถ้ามีตรงไหนที่ผมไม่เข้าใจผมจะย้อนคลิปดูใหม่อีกรอบ เมื่อเข้าใจแล้วผมจะเขียนสรุปใส่สมุด ซึ่งผมจะพยามทำความเข้าใจให้ได้ก่อนที่จะเริ่มเรียนเรื่องใหม่ในสัปดาห์ต่อไป วิธีนี้จะทำให้ผมเรียนรู้เรื่องมากขึ้นในครั้งถัดไปเพราะเนื้อหาจะมีความสอดคล้องกัน 3) ก่อนสอบ 1 เดือน ผมจะเริ่มทบเนื้อหาใหม่อีกรอบซึ่งช่วงนี้จะเป็นช่วงที่อ่านหนังสือเข้มข้นที่สุด และก็ติวกับเพื่อนเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน (ตั้งแต่หัวค่ำยันเช้า^^) และข้อ 4) การที่เรามีวินัยคือสำคัญที่สุดครับ
การจัดการความเครียดหรือปัญหาต่างๆที่เราเจอในระหว่างที่เรียนอยู่ : ส่วนตัวผมจะทำกิจกรรมหรืองานอดิเรกที่ผมชอบ เช่น เล่นกีตาร์ร้องเพลง, เล่นกีฬาตอนเย็น, คุยกับคนทางบ้านหรือเพื่อนเก่าที่สนิทกัน, และไม่กดดันตัวเองเกินไปว่าตัวเองไม่เก่งไม่เข้าใจ
คติประจำใจที่ทำให้เราประสบความสำเร็จ : ผมเคยตอบกับพี่ๆ ตอนเลือกประธานสาขา ว่า“This too shall pass. เดี๋ยวมันก็ผ่านไป” คตินี้ช่วยให้ผมผ่านวันแย่ๆ มาได้ในตอนที่ผมท้อ และ “ทุกอย่างเป็นไปได้”ผมเชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปได้ ขออนุญาตเล่าอีกสักนิดครับ^^ ตอนมาเรียนในคณะผมไม่คิดว่าผมจะจบด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหรียญทองเลยแม้แต่นิด ผมกลัวด้วยซ้ำว่าผมจะติด F เพราะโรงเรียนที่ผมจบมาถือว่าเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก (ร.ร.โพธิ์ทองวิทยาคาร นักเรียน~ 300 คน ) คงสู้นักเรียนในเมืองไม่ได้ ผมจึงใช้ความกลัวนี้ตั้งใจเรียนและทำให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้โดยไม่ได้แข่งกับใคร ผมก็ไม่คาดคิดว่าผมจะมาได้ขนาดนี้ครับ
สุดท้ายนี้ ผมขอขอบพระคุณครู อาจารย์ทุกท่านที่มอบความรู้ให้ และขอบคุณมหาวิทยาลัยมหาสารคามที่มอบประสบการณ์ชีวิตนักศึกษาอะไรหลายๆอย่างให้กับผมครับ
*** ป.ล. ในนามของนักศึกษา มมส. คนหนึ่ง อยากบอกว่าคิดถึง มมส. นะ ไว้มีโอกาสคงได้กลับไปเยี่ยมครับ :)
แนะนำตัว : นางสาวนันทินี เหมะสถล (อั้ม) เป็นคนจังหวัดเพชรบูรณ์ บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหรียญทอง หลักสูตรสัตวแพทยศาสตร์บัณฑิต คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประจำปีการศึกษา 2565 ด้วยระดับคะแนนเฉลี่ยสะสม 3.85 ค่ะ
ความภาคภูมิใจในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม : คณะสัตวแพทย์มอน้ำชี ในรั้วเหลืองเทานี้ มอบมิตรภาพ สังคมใหม่ๆ การรู้จักวางตน การปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมและ conection ที่ดีให้เสมอมาเลยค่ะ และอีกความภาคภูมิใจคือการที่มหาวิทยาลัยส่งเสริมในทุกๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นด้านวิชาการ กิจกรรม หรือการออกค่ายเพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ ทำให้เราได้ลงไปพบปะกับชาวบ้าน หรือเกษตรกรจริงๆ ทำให้ช่วยกันแก้ปัญหา ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ นอกห้องเรียน ทำให้เกิดการบูรณาการที่แท้จริงเกิดขึ้นค่ะ
เคล็ดลับการเรียน : การตั้งใจเรียนในห้องเรียนสำคัญที่สุดค่ะ ทำให้เราไม่หักโหมช่วงใกล้ๆจะสอบ ไม่ต้องเครียดมาก ไปออกกำลังกาย ทำกิจกรรมต่างๆให้สมองเราโล่งๆ แล้วค่อยกลับมาอ่านหนังสือจะช่วยให้เราอ่านหนังสือได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นค่า
การจัดการกับความเครียดในระหว่างเรียน : ส่วนตัวเป็นคนชอบออกกำลังกายมากๆค่ะ ถ้าหากเจอเรื่องเครียดๆก็จะไปออกกำลังกายให้ลืมสักพัก และพยายามจัดระบบความคิดตัวเอง ไม่ลืมว่าหน้าที่ของเราคือการเรียน สิ่งต่างๆ ที่เข้ามาเดี๋ยวเราก็ผ่านไปได้ค่ะ สู้ๆ ค่ะ
คติประจำใจเรา : เราคือค่าเฉลี่ยของคนที่เราอยู่ด้วย ฉะนั้นเลือกคบคนให้เป็น เลือกสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับตัวเองนะคะ