สารสกัดจากใบลิ้นฟ้าต้านเซลล์มะเร็ง

“Induction of Cell Death and Apoptosis of Oroxylum Indicum Extract with Gemcitabine On Human Cholangiocarcinoma Cells Through Reducing Epidermal Growth Factor Receptor”

งานวิจัยที่กำลังทำอยู่เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับสารสกัดสมุนไพรไทยหรือผักที่คนไทยรับประทานอยู่แล้ว นำมาศึกษาฤทธิ์ของสารจากธรรมชาติในการยับยั้งหรือต่อต้านการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง งานวิจัยที่กำลังกล่าวถึงคือ  เพกาหรือลิ้นฟ้า (Oroxylum indicum (L.) Kurz) ผู้วิจัยนำส่วนของยอดหรือใบอ่อนที่คนไทยรับประทานอยู่แล้วมาใช้ในการศึกษาฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตและการเคลื่อนที่ของเซลล์มะเร็งท่อน้ำดี มะเร็งท่อน้ำดีเป็นที่ทราบอยู่แล้วว่าเป็นมะเร็งที่มีอุบัติการณ์การเกิดที่สูงมากในประเทศไทย โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย จึงเป็นการศึกษาที่ค่อนข้างน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง 

เป็นการศึกษาฤทธิ์ของสารสกัดจากยอดอ่อนของลิ้นฟ้าในการกระตุ้นการตายของเซลล์มะเร็งท่อน้ำดี ยับยั้งการเคลื่อนที่ของเซลล์ และกระตุ้นการตายแบบอะพอพโตซิส และการศึกษาการเพิ่มฤทธิ์ของสารสกัดใบลิ้นฟ้าต่อยาเคมีบำบัดชนิด gemcitabine ในเซลล์มะเร็งท่อน้ำดีชนิด KKU-100 cells

      คณะผู้วิจัยเลือกยอดอ่อนของใบลิ้นฟ้าที่คนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมักนำมารับประทานกับน้ำพริก หรือเป็นผักเคียงในการรับประทานอาหารอยู่แล้ว และเคยทำการศึกษาในเซลล์มะเร็งหลายชนิดรวมถึงเซลล์มะเร็งเต้านมว่ามีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะสารสกัดจากใบอ่อน หรือ ยอดอ่อน

       ใบลิ้นฟ้าเป็นผักที่คนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคอื่นของประเทศไทยมีการรับประทานอยู่แล้ว ผักชนิดนี้มีรสฝาดขม ต้มน้ำดื่มแก้ปวดท้อง เจริญอาหาร แก้ปวดข้อ และเป็นองค์ประกอบในตำรับยาไทยหลายชนิด ดังนั้นคณะผู้วิจัยจึงมีความสนใจที่จะนำมาศึกษาฤทธิ์ต้านเซลล์มะเร็งท่อน้ำดี ผลการดำเนินงานพบว่าสารสกัดจากใบลิ้นฟ้าที่ความเข้มข้นค่อนข้างต่ำมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งและการเคลื่อนที่ของเซลล์มะเร็งได้ดี นอกจากนี้ยังพบว่าสารสกัดสามารถกระตุ้นการตายแบอะพอพโตซิสของเซลล์มะเร็งท่อน้ำดีได้เป็นอย่างดี และยังเพิ่มฤทธิ์ของยาเคมีบำบัดในการกระตุ้นการตายของเซลล์มะเร็งท่อน้ำดีอีกด้วย 

งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยที่ศึกษาในห้องวิจัย ดังนั้นการศึกษาวิจัยในด้านนี้คณะผู้วิจัยมีความเชี่ยวชาญสูง จึงไม่ค่อยมีปัญหามากนัก

ในการศึกษานี้ยังเป็นการศึกษาในหลอดทดลอง จึงเป็นการตอบได้ยากว่าคนไข้ต้องรับประทานเป็นระยะเวลาเท่าใดจึงจะเห็นผล

จากการสืบค้นยังไม่พบรายงานถึงอาการข้างเคียงหรืออาการพิษที่รุนแรง จึงไม่สามารถตอบได้ว่าถ้าหากเราใช้ขนาดยาที่ทำลายเซลล์มะเร็งในคนไข้จะทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงหรือไม่

ในอนาคตคาดว่าจะทำการการทดลองในหนูทดลองเพื่อทราบถึงประสิทธิผลในการต้านเซลล์มะเร็งเบื้องต้นในสิ่งมีชีวิต และ อาการพิษที่อาจจะเกิดขึ้นในคนไข้ค่ะ

การเริ่มต้นงานวิจัยเป็นงานที่ยากมากค่ะ แต่ถ้าเรามีความพยายามทำอย่างต่อเนื่อง และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไม่ย่อท้อ เราจะสามารถประสบความสำเร็จได้ค่ะ

ความสำเร็จ .... เกิดจากการทำงานที่สม่ำเสมอค่ะ