“หากเราตั้งใจทำในสิ่งที่ชอบ สิ่งที่ทำจะนำไปเจอสิ่งที่ใช่สำหรับเราเสมอ ” คนที่โชคดีที่สุด คือคนที่ค้นพบว่าตัวเองนั้นชอบอะไรและได้ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ และหากเราได้ออกเดินทางหาประสบการณ์ให้กับชีวิต สิ่งที่ชอบก็มักจะเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราได้เรียนรู้กับการใช้ชีวิต เช่นเดียวกับ ศุกภกร กลมกล่อม ที่เดิมทีเป็นคนชอบภาษาอังกฤษและอยากใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร และเขาก็ได้รับโอกาสดีๆ จากโครงการ Erasmus+ FRIENDS Student Boot Camp 2022 เพื่อเข้าร่วมโครงการ ณ Varna University of Management เมือง Dobrich ประเทศ Bulgaria ในระหว่างวันที่ 6 มิถุนายน - 1 กรกฎาคม 2565 และเขาจะมาถ่ายทอดประสบการณ์ดีๆ กับการเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ ตามเรามาค่ะ
สวัสดีครับ กระผม ศุกภกร กลมกล่อม เป็นนิสิตชั้นปีที่ 4 สาขาภาษาอังกฤษธุรกิจ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้เข้าร่วมโครงการ Erasmus+ FRIENDS Student Boot Camp 2022 ณ Varna University of Management เมือง Dobrich ประเทศ Bulgaria ครับ
ก่อนอื่นเลยนะครับ ผมต้องขอบคุณพี่ ๆ นักวิเทศสัมพันธ์ทุก ๆ คนครับ ที่ให้โอกาสผมได้ไปเรียนรู้และไปใช้ชีวิตที่ประเทศบัลแกเรียภายใต้โครงการ FRIENDS ที่สนับสนุนให้นิสิตได้ไปศึกษาหาความรู้และประสบการณ์ที่ต่างประเทศ โครงการนี้ดีมาก ๆ เป็นโครงการที่มอบโอกาสให้นิสิตได้พัฒนาความรู้และทักษะการใช้ชีวิตได้ดีเลยทีเดียว ซัพพอร์ตทุกอย่างจริง ๆ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เราต้องใช้ในแต่ละวัน ทางโครงการออกให้เราหมดเลย ทำให้เรามีความคิดว่า เราอยากลองส่งคลิปถ่ายทอดวัฒนธรรมเข้าแข่งบ้างเพราะเรารู้สึกว่านี่อาจเป็นโอกาสเดียวที่เราจะได้ไปใช้ชีวิตที่ต่างแดนเพราะทางบ้านเราก็ไม่ได้สามารถ Afford ขนาดนั้นครับ และเราก็ส่งคลิปประกวด จนกระทั่งเราเป็นหนึ่งในคนที่ถูกเลือก ตอนนั้นก็ตื่นเต้นมาก ๆ ครับ ไม่คิดว่าตัวเองจะได้ไปต่างประเทศเลยในชีวิตนี้
และการไปต่างประเทศครั้งนี้เป็นครั้งแรกของผมครับ ทุกอย่างใหม่สำหรับเราไปหมด ทั้งการขึ้นเครื่องบินข้ามประเทศ การไปเจอกับสังคมและวัฒนธรรมใหม่ที่แตกต่างจากบ้านเราโดยสิ้นเชิง การเรียนกับเพื่อนต่างชาติกว่า 50 คน และที่สำคัญคือการที่เราได้ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารในทุก ๆ วัน อันนี้เป็นสิ่งที่เราไขว่หามานานมากครับ เพราะส่วนตัวเป็นคนที่ชอบภาษาอังกฤษมาก ๆ และอยากใชัมันแทบทุกวันเพื่อฝึกฝน skill ภาษาของเราให้มันดีขึ้น
ในส่วนของวัฒนธรรมที่เจอมันก็มีช็อคอยู่บ้าง เช่น การใช้อวัจนภาษาของเขา เช่น พยักหน้า แปลว่า ‘ไม่’ ส่วนส่ายหน้าซ้ายขวา แปลว่า ‘ใช่’ และยังมี Culture Shock อีกประปรายกันไปครับ แต่ก็ในระยะเวลา 1 เดือนก็ปรับตัวกันไปได้ ท้ายที่สุดก็เคยชินกับมันเองครับ
เรื่องวัฒนธรรมที่น่าประทับใจอย่างหนึ่งที่อยากเอามาแชร์มาก ๆ คือการที่เมื่อมีคนจะข้ามถนนรถทุกคันจะหยุดให้เราข้ามครับ ซึ่งเราว่าเป็นภาพที่หายากในไทยอยู่นะ อีกอย่างคือการถาม How are you กับคนบัลแกเรียนี่แหละที่เรารู้สึกว่าน่ารักดีครับ เราถามไปว่า เฮ้ เป็นไง สบายดีไหม ถามไปแค่ 1 ประโยคเท่านั้น เขาตอบกลับมาเยอะมาก ฮ่าๆๆ ถาม 1 ตอบ 10 ที่แท้จริงครับ
ระหว่างที่อยู่ที่นั่น ทางโครงการก็ใจดีมาก ๆ พาเราไปเที่ยวทุกสัปดาห์เลย เราเรียนตั้งแต่จันทร์ถึงศุกร์ และเสาร์อาทิตย์เขาก็พาเราไปเที่ยว เรียกว่าหายเหนื่อยจากการเรียนกันเลยทีเดียว สถานที่ท่องเที่ยวที่เขาพาไปก็จะเป็นที่ที่เป็นวัฒนธรรมมาตั้งแต่อดีตครับ แล้วก็มีพาไปเที่ยวชายหาดครับ แล้วก็อีกหลายที่มาก
เรื่องมิตรภาพระหว่างเพื่อนต่างชาตินี่บอกเลยว่าทุกคนน่ารักมาก ๆ เพื่อนจาก 4 ประเทศ มาเลเซีย ภูฏาน กำพูชา และฟิลิปปินส์ ทุกคนน่ารักมาก ๆ นิสัยดี และพูดเก่ง เข้าสังคมเก่งมาก ทำให้เรารู้สึกว่าเขาเป็นแรงบันดาลใจให้เราอยากเก่งเหมือนเขาบ้าง และเราก็เข้าไปพูดคุยกับเพื่อน ๆ และสร้าง connection กันครับ เราก็บอกว่าเราพูดภาษาอังกฤษไม่เก่งมากนะ จะมีติด ๆ ขัด ๆ บ้าง แต่พวกเพื่อน ๆ เขาก็เข้าใจเราครับ และอยากให้เราพูดกับเขาเยอะ ๆ เพื่อจะได้ฝึกทักษะการพูดครับ น่ารักมาก ๆ
เวลาผ่านไปจนกระทั่งถึงเวลาที่ต้องแยกย้ายกันกลับ เป็นวันที่เรารู้สึกประทับใจและเศร้าไปพร้อม ๆ กัน เพราะเพื่อน ๆ ทุกคนเดินช่วยถือของมาส่งที่รถบัสเพื่อไปสนามบินที่อยู่อีกเมือง ทุกคนพร้อมใจกันเดินออกมาจากหอและมาส่งและให้ของที่ละลึกกัน กอดกัน บอกลากัน ตอนนั้นประทับใจเพื่อน ๆ มาก แต่ก็เศร้าใจอยู่ในเวลาเดียวกันเพราะถึงเวลาต้องแยกย้ายกันแล้ว ระยะเวลาร่วมเดือนเป็นเวลาที่สั้นมาก ๆ ในตอนนั้น จากคนที่ไม่เคยคิดว่าจะมีเพื่อนต่างชาติเลย จนตอนนี้เรามีเพื่อนต่างชาติมากมาย ถ้าเป็นไปได้ก็อยากไปเที่ยวบ้านพวกเขาอยู่ เพราะคิดถึงจริง ๆ ครับ :)