การวางแผนและกำหนดเป้าหมายในการใช้ชีวิต เป็นพื้นฐานที่เราทุกคนควรเรียนรู้และควรนำไปใช้ ซึ่งหากเราได้มีโอกาสออกไปใช้ชีวิตในที่ต่างถิ่น เราก็ยังสามารถวางแผนการใช้ชีวิตก่อนเจอกับสถานการณ์ในอนาคตได้ เช่นเดียวกับ ธนากร มิลินทานุช ผู้ซึ่งได้รับโอกาสดีๆ จากโครงการ Erasmus+ FRIENDS Student Boot Camp 2022 เพื่อเข้าร่วมโครงการ ณ Varna University of Management เมือง Dobrich ประเทศ Bulgaria ซึ่งเขาจะมาบอกเล่าประสบการณ์ดีๆ ซึ่งเขาได้เตรียมพร้อมกับการเดินทางเพื่อใช้ชีวิตในต่างแดนของเขาในครั้งนี้ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ตามเรามาดูกันเลยค่ะ
สวัสดีครับ กระผม นายธนากร มิลินทานุช นิสิตชั้นปีที่ 4 สาขาภาษาอังกฤษธุรกิจ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้เข้าร่วมโครงการ Erasmus+ FRIENDS Student Boot Camp 2022 ณ Varna University of Management เมือง Dobrich ประเทศ Bulgaria ครับ
ความรู้สึกแรกของผมนั้น รู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ ที่รู้ว่าจะได้ไปเมืองนอกเป็นครั้งแรก เคยฝันมาตั้งแต่เด็กว่าอยากขึ้นเครื่องบิน อยากไปออกไปเยือนต่างแดน นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ได้ไปต่างประเทศด้วยตัวเอง แถมยังโชคดีได้ไปกับเพื่อน ๆ อีกหลาย ๆ คนครับ ซึ่งอันดับแรกเลย เมื่อผมรู้ว่าจะต้องได้ไปต่างประเทศ ผมก็ทำการหาข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับประเทศบัลแกเรียก่อนเลย ไม่ว่าจะเป็นค่าครองชีพ หรือ การใช้ชีวิต สภาพอากาศต่าง ๆ รวมไปถึงอาหารการกิน ซึ่งเมื่อค้นข้อมูลแล้ว บอกได้คำเดียวเลยว่าแตกต่างจากประเทศไทยของเราอย่างสิ้นเชิงครับ ซึ่งเราต้องวางแผนในการปรับตัวหลาย ๆ อย่างก่อนก่อนเดินทางครับ
และเมื่อถึงวันเดินทางไปที่สุวรรณภูมิก็ตื่นเต้นมากเข้าไปอีก มีเพื่อนมาส่ง และก็พี่ๆจากวิเทศน์สัมพันธ์ เรารู้สึกอุ่นใจมากเลยครับ ปนะบการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ของผมได้เริ่มขึ้นแล้ว เริ่มจากการไปเช็คอินครับ เป็นการรอต่อคิวที่ถือว่านานที่สุดในชีวิตก็ว่าได้ เพราะรอต่อคิวเช็คอินก่อนขึ้นเครื่องใช้เวลา 3 ชั่วโมงกว่า ทำเอาเมื่อยขาเลย คนเดินทางเยอะมากเลยครับ เป็นไฟลท์ที่ใหญ่มาก แต่พวกเราก็ผ่านมันมาได้ครับ เมื่ออยู่บนเครื่องบินนั่งสะดวกสบายมากครับ แต่เราแอบโชคไม่ดีนิดหน่อยตรงที่ได้ที่นั่งตรงกลางทำให้รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย การบริการบนเครื่องทำได้ดีมาก เราเลือกที่จะบินสายการบินกาตาร์แอร์เวย์ เพราะเป็นสายการบินระดับโลก full service ของกาตาร์นั้นทำได้ดีมากทั้งขาไปขากลับ เป็นที่น่าประทับใจและตราตรึงใจจริง ๆ ครับ
พอถึงที่ประเทศบัลแกเรียเรามีโอกาสได้ไปเที่ยวเดินชมเมืองแถว ๆ ย่านใจกลางโซเฟียก่อน บ้านเมืองเค้าเป็นระเบียบพอสมควร ตึกราบ้านช่องเอยของพวกเขานั้นมีความอนุรักษ์นิยมอย่างมาก ถนนหนทางผู้คนขับรถกันเป็นระเบียบมาก สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดที่หาไม่ได้ในไทยนั่นคือการข้ามทางม้าลายนั่นเอง เมื่อไหร่ที่เราต้องการข้ามนั้น รถทุกคันจะพร้อมใจหยุดให้เราข้ามทันที ไม่ว่าคุณจะขับมาแรงแค่ไหน สิ่งนี้ถือว่าเป็นคัลเจอช็อคได้เลย เพราะที่ไทยรถบนถนนไม่ค่อยหยุดให้ผู้คนข้ามถนน ซึ่งเรารู้สึกอิจฉาอย่างแรงเลย ครับ
หลังจากนั้นเราก็ต้องเดินทางไปสู่เมืองที่เราจะต้องเดินทางไปเรียนนั่นคือเมือง ดอบริช เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ทางด้านทิศตะวันออกของบัลแกเรีย เมืองนี้สงบร่มรื่นอากาศดีมาก ๆ เลย พอมาถึงที่นี่เราก็ต้องเรียนเป็นเวลา 5 วันต่อสัปดาห์ ส่วนเสาร์อาทิตย์นั้น เป็นเวลาของเรา ได้ไปเที่ยวตาสถานที่ต่างๆ 555 ซึ่งถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ดีมากๆ เลยครับ ทางโครงการมีทริปให้เที่ยวทุกสุดสัปดาห์ได้ไปหลากหลายที่เที่ยวเลยไม่ว่าจะเป็น ปราสาท พระราชวัง ทะเล ชายหาด หรือสวนพืชนานาพันธ์ และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ มิตรภาพที่ได้อยู่ร่วมกับเพื่อน ๆ อีก 5 ประเทศ ภูฐาน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ กัมพูชา ไทย พวกเราได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมต่างๆ ของแต่ละประเทศ ทำให้พวกเราต่างผูกพันธ์แน่นแฟ้นกัน อย่างไม่สามารถจะอธิบายออกมาได้เลยครับ
ถึงจะเป็นเวลาแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น แต่สิ่งที่ได้มานั้นมันมากมายเอ่อล้นอยู่ข้างในใจของเด็กที่เข้าร่วมโครงการทุกคน อยากให้มีโครงการดี ๆ แบบนี้ไปอีกเยอะในรุ่นต่อ ๆ ไป เพื่อที่จะได้เปิดประสบการณ์ให้กับน้อง ๆ ที่อยากมาสัมผัสชีวิตต่างประเทศ ขอบคุณโครงการ ERASMUS + FRIENDS และพี่ๆ จากวิเทศน์สัมพันธ์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อน ๆ ที่ร่วมเดินทางไปด้วยกัน ที่มอบประสบการณ์ที่น่าจดจำและหาไม่ได้นี้อีกแล้วขอบคุณจริง ๆ ครับ ขอบคุณมากครับ