"5 นาที กับโจทย์เศรษฐศาสตร์ระดับชาติ" ฟังดูเป็นเวลาที่สั้น แต่สำหรับการแข่งขันตอบปัญหาทางเศรษฐศาสตร์ มันคือช่วงเวลาที่กดดันที่สุดที่ต้องใช้ทั้งความรู้ ทักษะการคิดวิเคราะห์ และการตัดสินใจที่แม่นยำในพริบตา ทีมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ จากคณะการบัญชีและการจัดการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้พิสูจน์ความสามารถของพวกเขาในการแข่งขันตอบปัญหาระดับประเทศ ด้วยการคว้าอันดับที่ 9 จาก 18 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ แม้จะไม่ใช่อันดับต้นสุด แต่สำหรับพวกเขาแล้ว นี่คือก้าวสำคัญที่เต็มไปด้วยประสบการณ์อันมีค่า
เบื้องหลังความสำเร็จนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน แต่เป็นผลลัพธ์จากการเตรียมตัวอย่างเข้มข้น ฝึกซ้อมอย่างเป็นระบบ และแรงสนับสนุนจากอาจารย์ที่ปรึกษาอย่างเต็มที่ วันนี้สาร MSU ONLINE จะพาทุกคนไปรู้จักกับพวกเขาให้มากขึ้น ตั้งแต่ที่มา วิธีการเตรียมตัว ความท้าทายที่ต้องเผชิญ และบทเรียนล้ำค่าที่ได้รับจากการแข่งขันนี้ มาติดตามเรื่องราวของพวกเขากันเลยค่ะ
แนะนำตัว
สวัสดีครับ/ค่ะ พวกเราเป็นนิสิตสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ คณะการบัญชีและการจัดการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม สมาชิกในทีมของเราประกอบด้วย นายนิติภูมิ อยู่หนู, นางสาวชุติกาญจน์ ทศวัฒน์ นิสิตชั้นปีที่ 3, นายบวรวิทย์ น้อยลา นิสิตชั้นปีที่ 2 โดยมีอาจารย์ผู้ฝึกสอนในวิชาเศรษฐศาสตร์มหภาค คือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อุทิศ พงศ์จิรวัฒนา และอาจารย์ผู้ฝึกสอนในรายวิชาเศรษฐศาสตร์จุลภาค คือ อาจารย์ ดร.คมกริช วงศ์แข เป็นผู้ให้ความรู้และจัดหาโจทย์ทางเศรษฐศาสตร์เพื่อเตรียมความพร้อมในการแข่งขันตอบปัญหาในครั้งนี้ และมีอาจารย์ที่ปรึกษา คือ อาจารย์ ดร.วีระศักดิ์ สว่างโลก, อาจารย์ณัฏฐ์ ธารเจริญ
รู้สึกอย่างไรบ้างที่สามารถคว้ารางวัลจากการแข่งขันระดับชาติครั้งนี้?
รู้สึกยินดีและภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่สามารถคว้าลำดับที่ 9 จากการแข่งขันตอบปัญหาระดับชาติในครั้งนี้ มีมหาวิทยาลัยทั่วประเทศเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมดจำนวน 18 มหาวิทยาลัย ซึ่งถือเป็นบันไดความสำเร็จขั้นเล็ก ๆ ที่มีความหมายกับเรามาก เป็นสิ่งที่ช่วยเปิดโอกาสในการพัฒนาและสามารถต่อยอดไปสู่ความสำเร็จในอนาคตได้ ถึงแม้ว่าเรายังมีช่องว่างอีกหลายอย่างที่ต้องพัฒนา แต่ถือเป็นความสำเร็จที่เกิดจากความร่วมมือและความทุ่มเทจากทุกคนในทีมอย่างเต็มที่ อีกทั้งรู้สึกขอบคุณและทราบซึ้งกับโอกาส ความรู้ และประสบการณ์ดี ๆ ที่ได้รับจากอาจารย์ผู้ฝึกสอน คือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อุทิศ พงศ์จิรวัฒนา และอาจารย์ ดร.คมกริช วงศ์แข ที่ฝึกสอนกันมาเป็นอย่างดีและให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ครับ/ค่ะ
อยากให้เล่าการแข่งขันตอบปัญหาทางเศรษฐศาสตร์มีรูปแบบการแข่งขันอย่างไร และมีความยากแค่ไหน?
การแข่งขันตอบปัญหาทางเศรษฐศาสตร์ในครั้งนี้เป็นการตอบคำถามลักษณะทีม 3 คน ในรูปแบบข้อสอบอัตนัย ซึ่งเป็นข้อสอบเศรษฐศาสตร์ประยุกต์ที่ต้องใช้ทั้งการคำนวณและการวิเคราะห์แบ่งเป็น ข้อสอบเศรษฐศาสตร์จุลภาค 5 ข้อ และ ข้อสอบเศรษฐศาสตร์มหภาค 5 ข้อ รวมทั้งหมด 10 ข้อ ข้อสอบในแต่ละรอบจะถูกสุ่มขึ้นมาจากจำนวนข้อสอบทั้งหมด ซึ่งผู้เข้าสอบจะไม่ทราบล่วงหน้าว่าข้อสอบนั้นมาจากมหาวิทยาลัยใด มีเนื้อหาแบบใด และจะได้รับข้อสอบพร้อมกันทุกทีม โดยให้เวลาทำข้อสอบเพียง 5 นาทีเท่านั้น ซึ่งความท้าทายของการแข่งขันอยู่ที่ความยาว ความซับซ้อนของโจทย์ ที่ต้องใช้การวิเคราะห์ ตีความ ภายใต้เวลาที่จำกัดแค่ 5 นาที และสิ่งที่ท้าทายที่สุด คือ การควบคุมสติให้ได้ ซึ่งในช่วงเฉลยข้อสอบแต่ละข้อ ผู้เข้าร่วมจะสามารถประเมินตนเองและคาดการณ์คะแนนได้ว่าเราสามารถทำข้อสอบได้มากน้อยแค่ไหน ครับ/ค่ะ
ในทีมมีวิธีเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันอย่างไรบ้าง ?
เมื่อเราทราบขอบเขตในการออกข้อสอบแล้ว ทีมของเราได้ทำการแบ่งหัวข้อรับผิดชอบกันตามความถนัดของแต่ละบุคคล โดยผู้ที่ได้รับหัวข้อนั้นจะต้องไปศึกษาและทบทวนเนื้อหาตามที่ได้รับมอบหมาย เพื่อให้เข้าใจทั้งคอนเซ็ปต์และวิธีการคำนวณ ซึ่งเราได้มีการนัดกันอ่านหนังสือโดยใช้ช่วงระยะเวลาประมาณห้าโมงเย็นถึงเที่ยงคืน ในวันที่ว่างตรงกันเพื่อใช้ระยะเวลาเกือบหนึ่งเดือนในการทำความเข้าใจ แลกเปลี่ยนความรู้กัน โดยได้นำหนังสือเศรษฐศาสตร์ของแต่ละบุคคลมาแลกเปลี่ยนและศึกษาร่วมกัน อีกทั้งมีอาจารยผู้ฝึกสอน คือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อุทิศ พงศ์จิรวัฒนา และ อาจารย์ ดร.คมกริช วงศ์แข ที่ให้ความรู้กับพวกเราอย่างเต็มที่และได้จัดเตรียมโจทย์จำนวนมาก เพื่อให้ฝึกทำ ซึ่งข้อดีของการฝึกทำโจทย์ของอาจารย์ทั้งสองท่าน คือ ทำให้ได้ทบทวนเนื้อหาเศรษฐศาสตร์ในทุกวัน ได้แนวคิดและแนวทางในการทำโจทย์อย่างหลากหลาย และโจทย์ที่อาจารย์ให้ทำมีความใกล้เคียงกับข้อสอบจริงเป็นอย่างมาก รวมถึงได้มีการฝึกซ้อมการทำข้อสอบจริงโดยได้มีการจับเวลาขณะทำด้วย ทำให้เรามีความพร้อมมากขึ้นก่อนเจอสถานการณ์จริง
มีโจทย์ข้อไหนที่รู้สึกว่ายากที่สุด หรือท้าทายที่สุดในการแข่งขัน?
เศรษฐศาสตร์จุลภาค คือ Edgeworth Box Diagram เนื่องจาก เป็นข้อแรกของการแข่งขัน ทำให้มีความตื่นเต้น และประหม่า พร้อมทั้งเป็นข้อที่ต้องวิเคราะห์ วาดกราฟ และคำนวณ หลายขั้นตอนในระยะเวลาจำกัด
เศรษฐศาสตร์มหภาค คือ Solow Growth Model เนื่องจาก ไม่ได้เตรียมความพร้อมในเนื้อหาส่วนนี้ไป ทำให้จับประเด็นได้ไม่ชัดเจนในขณะทำโจทย์ ซึ่งเป็นบทเรียนที่ทำให้เราสามารถนำมาปรับและเตรียมพร้อมให้กับรุ่นน้อง ที่จะไปครั้งแข่งขันในอนาคตได้
อะไรคือที่ทำให้ทีมของเราสามารถติดอันดับ 9 จาก 18 ทีมได้?
การเตรียมตัวที่ดีและให้ความร่วมมือกันในทีมอย่างดี เราแบ่งหน้าที่และหัวข้อการศึกษากันตามความถนัดของแต่ละคน ทำให้ทุกคนสามารถมุ่งไปที่การศึกษาเนื้อหาของตนเองได้เต็มที่ และสามารถแลกเปลี่ยนความรู้กันระหว่างสมาชิกในทีม พร้อมกับมีอาจารย์ผู้ฝึกสอนที่มีความรู้และมีความชำนาญ ในรายวิชาเศรษฐศาสตร์มหภาค และเศรษฐศาสตร์จุลภาค ที่ได้จัดเตรียมโจทย์จำนวนมากให้ได้ฝึกทำอย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้คุ้นเคยกับรูปแบบข้อสอบและสามารถรับมือกับโจทย์ที่มีความหลากหลาย และคอยให้ความรู้และคำปรึกษาตลอดการฝึกซ้อม ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้จริงในการแข่งขัน และสิ่งที่สำคัญที่สุด ณ เวลาที่อยู่ในสนามแข่งขัน คือ การมีสติและให้กำลังใจกับเพื่อนร่วมทีมอยู่เสมอ
การแข่งขันครั้งนี้ให้อะไรกับเราบ้าง ทั้งในแง่ความรู้และประสบการณ์?
การแข่งขันครั้งนี้มอบทั้งความรู้และประสบการณ์ที่มีคุณค่ามากมายให้กับพวกเรา เราได้ลองทำสิ่งใหม่ ๆ ที่ท้าทาย ทำให้เราได้ฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์และการทำงานภายใต้ความกดดัน เรียนรู้การทำงานร่วมกันในทีม สร้างมิตรภาพที่ดี การได้พบกับเพื่อน ๆ ต่างมหาวิทยาลัยที่มีความสามารถมากมาย ซึ่งถือเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้เราอยากพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น และสิ่งที่สำคัญ คือ การที่เราได้เรียนรู้การยอมรับข้อผิดพลาด ทำให้เข้าใจว่าการผิดพลาดไม่ใช่สิ่งที่แย่เสมอไป แต่ถือเป็นโอกาสในการเรียนรู้และการพัฒนา อีกทั้งยังได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากความรู้และประสบการณ์ของอาจารย์ผู้ฝึกสอนว่าความรู้ไม่ได้มีเพียงแต่ในห้องเรียนเท่านั้น ครับ/ค่ะ
อยากฝากอะไรถึงเพื่อนนิสิตที่สนใจเข้าร่วมการแข่งขันนี้ในปีต่อไป?
สำหรับเพื่อน ๆ นิสิตที่สนใจเข้าร่วมการแข่งขันในปีต่อไป ต้องบอกว่า การแข่งขันนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การพัฒนาทักษะและเพิ่มพูนความรู้ แต่เป็นโอกาสในการเรียนรู้ใหม่ ทำให้เราได้รับประสบการณ์ที่มีค่ามากกว่าความรู้ในห้องเรียน โดยพวกเราพร้อมที่จะส่งต่อความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับมา เพื่อให้เพื่อน ๆ สามารถเตรียมความพร้อมในการแข่งขันได้ดียิ่งขึ้นในปีต่อไป และพวกเราอยากบอกทุกคนว่าไม่ต้องกังวล หากเราเตรียมตัวและพยายามอย่างเต็มที่แล้ว ทุกอย่าง ๆ จะออกมาดี ไม่มีอะไรต้องเสียดาย อีกทั้งจะได้พัฒนาตัวเองมากยิ่งขึ้นด้วย ครับ/ค่ะ
