ในงานวันรพี ประจำปี 2567 โดย สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ผ่านมา การแข่งขันกล่าวสุนทรพจน์ระดับปริญญาตรีภาคภาษาไทย ได้จบลงด้วยความสำเร็จอันน่าประทับใจ และหนึ่งในผู้ที่ได้รับรางวัล คือ นายคณพศ สารพัตร์ นิสิตจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่สามารถคว้ารางวัล รองชนะเลิศอันดับ 1 มาครองได้สำเร็จ ความภาคภูมิใจและความมุ่งมั่นของเขาไม่เพียงสะท้อนถึงความสามารถของตัวเขาเอง แต่ยังเป็นเครื่องยืนยันถึงศักยภาพของสถาบันการศึกษาที่ผลิตนิสิตที่โดดเด่นในเวทีระดับประเทศ สาร MSU ONLINE จะพาทุกท่านไปพูดคุยกับเขาถึงเบื้องหลังความสำเร็จและความรู้สึกจากการได้รับรางวัลผ่านบทสัมภาษณ์นี้ มาติดตามกันค่ะ
แนะนำตัวเอง
นายคณพศ สารพัตร์ ชื่อเล่น กังฟู ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
รางวัลที่ได้รับ
รางวัลที่ได้รับคือ รองชนะเลิศอันดับ ที่ 1 การแข่งขันกล่าวสุนทรพจน์ ภาคภาษาไทยระดับปริญญาตรี เนื่องในวันรพี ประจำปี 2567 โดย สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น 44 คน จาก 24 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ซึ่งการแข่งขันแบ่งออกเป็น 2 รอบ คือ รอบที่ 1 รอบคัดเลือกสำหรับภาคภาษาไทย แข่งขันในหัวข้อ “มรรยาททนายความกับการอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชน” และ รอบที่ 2 รอบชิงชนะเลิศ สำหรับภาคภาษาไทย แข่งขันในหัวข้อ “บทบาทของทนายความในการผดุงไว้ซึ่งหลักนิติธรรม”
แรงบันดาลใจและการเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ "ความท้าทายครั้งใหม่: ก้าวสู่เวทีใหญ่ สร้างฝันผ่านคำพูด"
แรงบันดาลใจในการเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ คือ ต้องการท้าทายความสามารถของตัวเอง เพราะปกติเป็นคนที่ชอบการพูด และ เคยเข้าร่วมการแข่งขันกล่าวสุนทรพจน์มาก่อนในระดับคณะ แต่ไม่เคยเข้าร่วมการแข่งขันในระดับอื่น เมื่อทางคณะได้ติดต่อว่าสนใจเข้าร่วมการแข่งขันหรือไม่ ผมตอบตกลง เพราะมองว่าเป็นโอกาสที่จะได้ท้าทายความสามารถของตนเองเป็นอย่างมาก และคณะนิติศาสตร์ไม่เคยส่งเข้าร่วมการแข่งขันการกล่าวสุนทรพจน์กับทางสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ ในสนามการแข่งขันประเภทเดียวกันมาก่อนเลย ดังนั้นผมจึงมองว่าเป็นโอกาสในการท้าทายความสามารถของผมเองที่น่าสนใจเป็นอย่างมากครับ
อยากให้เล่าถึงการเตรียมตัวก่อนการเข้าร่วมการแข่งขัน
สำหรับการเตรียมตัวในการเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ ผมใช้วิธีการในการหาข้อมูลในประเด็นที่เราจะต้องกล่าวสุนทรพจน์เพื่อให้เรามีข้อมูลประกอบการกล่าวสุนทรพจน์และมีกรอบการกล่าว โดยใช้ระยะเวลาเตรียมตัว 3 – 5 วันก่อนทำการแข่งขัน โดยได้มีโอกาสขอคำเสนอแนะจากท่านคณบดีคณะนิติศาสตร์ ท่านรองคณบดีฝ่ายวิชาการและวิจัย ท่านรองคณบดีฝ่ายพัฒนานิสิตและประกันคุณภาพ และได้นำข้อเสนอแนะ และคำติชมนำมาปรับเนื้อหาที่เตรียมไว้สำหรับเข้าร่วมการแข่งขัน ในส่วนของเนื้อหาที่ใช้ในการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศนั้น ใช้วิธีเตรียมข้อมูลโดยการหาประเด็นสำคัญว่าผู้ที่ตั้งโจทย์ต้องการให้เรานำเสนอประเด็นอะไรเป็นหลัก และหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้ประกอบการกล่าวสุนทรพจน์ในรอบชิงชนะเลิศครับ
อยากให้เล่าถึงการกล่าวสุนทรพจน์ ในหัวข้อ “บทบาททนายความกับการอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชน"
สำหรับการกล่าวสุนทรพจน์ ในหัวข้อ “บทบาททนายความกับการอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชน” นั้นถือเป็นความท้าทายเป็นอย่างมาก เนื่องจากเราจะต้องสื่อสารอย่างไรให้ท่านคณะกรรมการเข้าใจในสิ่งที่เราต้องการที่จะสื่อสาร โดยไม่เป็นการยัดเยียดข้อมูล หรือ อัดแน่นข้อมูลจนเกินไปเพื่อเล่าให้แก่กรรมการฟัง และความท้าทายอีกประการคือ จะสื่อสารอย่างไรให้มีความแตกต่างจากผู้อื่น โดยการแข่งขันในรอบคัดเลือกในหัวข้อดังกล่าวนั้น ได้ใช้เทคนิคคือมีการนำเนื้อหาที่ได้เตรียมข้อมูลเอาไว้มาประกอบกับประสบการณ์ หรือ สิ่งที่ได้จากการฟังบรรยายของอาจารย์ในห้องเรียน นำมารียบเรียงเป็นการเล่าเรื่อง พร้อมทั้งตั้งคำถามชวนให้ท่านคณะกรรมการคิดไปพร้อมกับการกล่าวสุนทรพจน์ ซึ่งเป็นวิธีการที่ดึงดูดความสนใจท่านคณะกรรมการให้คิดตามในสิ่งที่เราสื่อสารผ่านการกล่าวสุนพจน์ออกไปครับ
คุณคิดว่าคุณสมบัติหรือทักษะใดที่สำคัญที่สุด สำหรับการกล่าวสุนทรพจน์ที่มีประสิทธิภาพ
คุณสมบัติที่สำคัญสำหรับการแข่งขันสุนทรพจน์นั้น คือ ทักษะการสื่อสาร ครับ เพราะทักษะการสื่อสาร ถือเป็นคุณสมบัติที่สำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากการสื่อสารที่สร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพจะทำให้ผู้รับสารนั้นมีความเข้าใจในสิ่งที่เราต้องการสื่อสารนั้นโดยง่าย และทักษะที่สำคัญอีกประการคือ ทักษะการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เนื่องจากในการแข่งขันนั้นมีความท้าทายหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหา เช่น หากไมค์มีระดับความสูงที่ไม่เหมาะสม หรือ กรณีปัญหาอื่นๆ ที่อาจพบได้เฉพาะหน้าในขณะแข่งขันโดยที่ไม่ได้อยู่ในแผนที่คิดว่าอาจเกิดขึ้นในการแข่งขัน เราต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้ได้ครับ
บอกความคุณรู้สึกที่ได้รับรางวัลนี้
ความรู้สึกภายหลังได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ที่ 1 การแข่งขันกล่าวสุนทรพจน์ ภาคภาษาไทยระดับปริญญาตรีเนื่องในวันรพี ประจำปี 2567 นั้นเป็นความรู้สึกที่ดีใจและปลื้มเป็นอย่างมากครับ เนื่องจากการแข่งขันครั้งนี้เป็นการแข่งขันในระดับประเทศ และผมมีความภูมิใจในตนเองที่สามารถพิสูจน์ให้คนทั่วไปได้ทราบว่า คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาสารคามนั้นก็สามารถผลิตนิสิตที่มีความสามารถไม่น้อยไปกว่าคณะนิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยอื่นใด ในการแข่งขันครั้งนี้ ขอขอบคุณท่านคณบดีคณะนิติศาสตร์ ผู้บริหารคณะฯ ที่ได้ให้โอกาสผมในการเข้าร่วมการแข่งขันการกล่าวสุนทรพจน์ ณ สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ในครั้งนี้ และ ขอขอบคุณ ว่าที่ร้อยตรีธีรวุฒิ การินทร์ นักวิชาการศึกษา ผู้ควบคุมทีมที่อำนวยความสะดวกตลอดการแข่งขันและให้กำลังใจในระหว่างการซ้อม จนกระทั่งวันทำการแข่งขันครับ
ข้อคิด หรือ คติ ที่เราใช้เตือนตัวเอง
ข้อคิดที่ได้จาการเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ คือ เมื่อเรามีโอกาส หรือ ได้รับโอกาสต้องคว้าโอกาสนั้นไว้ เพราะ โอกาสนั้นไม่อาจรอได้ หากโอกาสมาต้องคว้าเอาไว้ เพราะ ถือว่าเราเป็นผู้ที่สมควร และเมื่อได้รับโอกาสนั้นต้องทำให้ดีที่สุด เพราะเมื่อได้เริ่มลงสนามการแข่งขันแล้วจะไม่มีโอกาสกลับมาแก้ตัวได้อีกจึงต้องลงมือทำให้ดีที่สุดครับ
อยากให้เชิญชวนน้องๆที่สนใจจะมาเรียน นิติศาสตร์/และน้องๆต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
สำหรับน้องๆที่มีความสนใจศึกษาต่อในคณะนิติศาสตร์ ขอตะโกนดังๆ เลยครับว่า LAW MSU นี่แหละครับคือคำตอบ คณะของเราไม่ได้มีแค่การสอนตามหลักสูตรเท่านั้น ยังมีกิจกรรมนอกหลักสูตรอีกมากมายให้น้องๆได้ค้นหาตัวเอง นอกจากนี้ยังมีเวทีให้น้องๆได้พิสูจน์ตัวตน และ ได้โชว์ความสามารถที่หลากหลาย ที่นี่เราอยู่กันแบบครอบครัว อาจารย์เปรียบเสมือนพ่อ แม่ หรือ บางครั้งก็เป็นเพื่อนให้น้องๆ ได้ นอกจากนี้ยังรุ่นพี่ที่พร้อมจะสนับสนุนน้องๆ ในทุกอย่าง ครับ
ส่วนเรื่องของการเตรียมตัวนั้น ก็ขอให้น้องๆ ศึกษาระเบียบ TCAS ให้ละเอียดว่าน้องนั้นมีคุณสมบัติตรงกับรอบไหน เพื่อที่จะสามารถค้นหาทริคในการเข้ารอบไหนได้อย่างง่าย เนื่องจากในแต่ละรอบก็จะมีวิธีการคัดเลือกที่แตกต่างกัน แต่ บ้านนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม แห่งนี้พร้อมต้อนรับน้องๆ เสมอ ครับ :)
