เส้นทางของความมุ่งมั่นและความสำเร็จของการศึกษา ในรั้วมหาวิทยาลัยคือการได้มาซึ่งใบปริญญาบัตร อันแสดงถึงความเป็นบัณฑิตอันทรงเกียรติ  มีคุณค่า พัฒนาตนเองในการทำงานและเป็นที่ยอมรับในสังคม  และนอกเหนือจากนั้นแล้ว การที่บัณฑิตได้รับเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหรียญทอง  ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นผลมาจากความขยัน มุ่งมั่น ทุ่มเทการเรียนมาตลอดระยะเวลาการศึกษาในมหาวิทยาลัย  จึงเป็นรางวัลแห่งความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจสำหรับพวกเขา 


 
        สาร MSU Online  จะพาทุกท่านไปรู้จักกับบัณฑิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่ได้รับเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหรียญทอง จาก คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ คณะสาธารณสุขศาสตร์  คณะวิทยาการสารสนเทศ  คณะเทคโนโลยี  จากบทสัมภาษณ์ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเคล็ดลับการเรียน การจัดการความเครียด และเรื่องอื่นๆ ผ่านมุมมองความคิดของพวกเขา  ไม่อยากให้ทุกท่านพลาด  โดยเฉพาะน้องๆที่กำลังเรียนอยู่  มีประโยชน์กับน้องๆ ที่จะนำไปเป็นแบบอย่างในการเรียนได้ดีทีเดียวเลยค่ะ  เรามารู้จักกับพวกเขาไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ



        แนะนำตัว : ซินจ่าว! สวัสดีครับ ชื่อ นายปกรณ์ ฉิมไหล ชื่อเล่น ตี๋ บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหรียญทอง สาขาภาษาและวัฒนธรรมอาเซียน (ภาษาและวัฒนธรรมเวียดนาม) คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประจำปีการศึกษา 2565 ด้วยระดับคะแนนเฉลี่ยสะสม 3.96 ครับ
        ความภาคภูมิใจในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม  :  ก่อนหน้าที่ผมจะมาเรียน สาขาภาษาและวัฒนธรรมเวียดนามที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ผมเรียนมัธยมปลายอยู่ในกรุงเทพฯ ครับ และผมก็มีความชอบในภาษาเวียดนามมาตั้งแต่ตอนมัธยมปลายแล้ว ระหว่างเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยผมก็หาข้อมูลหลักสูตรการเรียนการสอนภาษาเวียดนามระดับมหาวิทยาลัยในประเทศไทย ว่ามีที่ไหนบ้างที่เปิดสอนภาษาเวียดนาม ทั้งหลักสูตรที่มีการสอนภาษาเวียดนามเป็นวิชาเอก และหลักสูตรที่มีการสอนภาษาเวียดนามเป็นวิชาโท เมื่อพิจารณาจากวิชาที่จะต้องเรียนในระยะเวลา 4 ปี ผมคิดว่าสาขาภาษาและวัฒนธรรมเวียดนาม คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามนี่แหละที่ตอบโจทย์ที่สุด เพราะในหลักสูตรมีวิชาที่เรียนภาษาเวียดนามและวัฒนธรรมเวียดนามที่เข้มข้นมาก และที่นี่เองก็มีการเรียนการสอนภาษาเวียดนามมาอย่างยาวนาน แต่พอผมเรียนจบ ม.ปลายและกำลังจะเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัย ผมก็มาป่วยเพราะผมตรวจเจอมะเร็งตอนอายุ 18 ครับ เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ระยะที่ 4 เป็นชนิดเฉียบพลัน ซึ่งเชื้อมะเร็งแพร่กระจายเข้าสู่ไขสันหลังแล้ว  แต่ผมก็อดทนสู้มาจนเสร็จสิ้นกระบวนการรักษาในช่วงต้นปี 2562 หมอก็อนุญาตให้ผมไปเรียนได้ ผมจึงมาสมัครเรียนที่สาขาภาษาและวัฒนธรรมเวียดนาม มหาวิทยาลัยมหาสารคามอีกครั้ง ซึ่งผมประทับใจตั้งแต่วันแรกที่ได้มาสัมภาษณ์ที่คณะฯ อาจารย์ทุกท่านน่ารักมาก และเมื่ออาจารย์ทราบว่าผมป่วยอาจารย์ก็เข้าใจและห่วงใยในสุขภาพของผม ผมรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นภายในสาขา คณะ และมหาวิทยาลัยแห่งนี้ และตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ได้เป็นนิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ผมได้รับความรักความเมตตาจากอาจารย์ทุก ๆ ท่าน อาจารย์ทุกท่านไม่เพียงแต่มอบความรู้ทางด้านวิชาการแต่ยังมอบความรู้ในวิชาคนเพื่อให้เราได้ออกไปใช้ชีวิตในสังคมในอนาคตเมื่อเราจบการศึกษาไปแล้ว จนถึงวันนี้วันพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประจำปีการศึกษา 2565 ผมสำเร็จการศึกษาในฐานะบัณฑิตเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหรียญทอง สาขาภาษาและวัฒนธรรมอาเซียน (ภาษาและวัฒนธรรมเวียดนาม) ของคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ถือเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดในชีวิตของผม และคิดว่าผมเลือกไม่ผิดจริง ๆ ที่ได้เข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ครับ



        เคล็ดลับการเรียน : สำหรับเคล็ดลับในการเรียนผมขอ list เป็นข้อ ๆ นะครับ
            1. ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน คือสิ่งแรกที่เป็นแรงผลักดันในการเรียนของผมครับ เพราะการที่เราวางเป้าหมายเอาไว้ถือว่าเป็นตัวช่วยสำคัญในการที่จะทำให้เราพัฒนาตัวเองเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่เราตั้งไว้ครับ 
             2. วางแผนการเรียน เมื่อเรามีเป้าหมายแล้วเราก็จะต้องรู้จักวางแผนการเรียน ผมจะทำเป็นแบบตารางหรือปฏิทินการเรียนคร่าว ๆ ว่าในแต่ละวันใน 1 สัปดาห์ เรามีแพลนที่จะต้องทำอะไรบ้าง 
            3. ตั้งใจเรียนในห้องเรียน กล้าถามอาจารย์ในสิ่งที่ไม่เข้าใจ สรุปเนื้อหา และทบทวนบทเรียน
            4. หาความรู้รอบตัวเพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา 
            5. หมั่นเรียนรู้ ฝึกฝนทักษะต่าง ๆ เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาของตัวเอง
        การจัดการความเครียดหรือปัญหาต่างๆที่เราเจอในระหว่างที่เรียนอยู่  :แน่นอนว่าการเรียนในมหาวิทยาลัยทุกคนต้องพบเจอกับปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ มากมาย สำหรับตัวผมเอง ถ้าปัญหานั้นไม่หนักหนามากจนเกินไป ผมก็จะพักมันไว้ก่อนครับ แล้วก็จะผ่อนคลายด้วยการฟังเพลง ร้องเพลง ดูหนัง ดูซีรีส์ เล่นเกม เมื่อสมองเราผ่อนคลายแล้วก็ค่อยมาคิดหาวิธีแก้ไขปัญหานั้นครับ แต่ถ้าปัญหานั้นมันหนักเกินกว่าที่เราจะแบกมันไหวคนเดียว ผมก็จะปรึกษาครอบครัว ปรึกษาเพื่อนสนิท ปรึกษาอาจารย์ครับ บางทีอาจจะไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาเหล่านั้นช่วยเหลือได้โดยตรง แต่คำพูดคำแนะนำเพียงเล็กน้อยจากพวกเขาก็อาจจะทำให้เราพบวิธีแก้ไขปัญหาได้ก็ได้นะครับ และผมเป็นคนไม่ชอบที่จะกลั้นน้ำตาเอาไว้ครับ เมื่อผมท้อแท้หรือเหนื่อยล้าผมก็จะร้องไห้ออกมา ให้น้ำตาชะล้างความเหนื่อยล้าออกไปบ้าง เมื่อร้องไห้จนพอใจ ก็ลุกขึ้นมาสู้ต่ออย่างคนที่เข้มแข็งกว่าเดิมครับ
        คติประจำใจที่ทำให้เราประสบความสำเร็จ : ไม่เชิงว่าเป็นคติประจำใจนะครับ แต่เป็นถ้อยคำที่ผมเอาไว้ย้ำเตือนตัวเองอยู่เสมอครับ...
        "ชีวิตเกิดมาแล้วครั้งหนึ่ง จะตายจากโลกนี้ไปวันนี้ หรือพรุ่งนี้ไม่มีใครรู้ได้ รู้แต่ว่าวันนี้ตอนนี้เรายังมีลมหายใจ ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจก็จงเลือกทำในสิ่งดี เลือกทำในสิ่งที่ใจเราปรารถนา... 
        ผู้คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตก็ล้วนมาพร้อมกับคำครหานินทา คำพูดเหล่านั้นก็เปรียบดั่งสายลมที่พัดมากระทบผิวกายเรา ที่พัดมาแล้วก็พัดผ่านไป ขึ้นอยู่ที่ตัวเราเองนั้นเลือกที่จะรับฟังมันมากน้อยเพียงใด...  
        ในเมื่อเราเกิดมาไม่ได้มาต้นทุนชีวิตเหมือนกับคนอื่น เพราะฉะนั้นความสำเร็จของเราไม่ได้มีแค่เราที่เฝ้ารอ ยังมีคนข้างหลังเราอีกมากมายที่รอยินดีกับความสำเร็จของเรา ดังนั้นหากเจอปัญหาหรืออุปสรรคอะไรที่ทำให้เราท้อแท้ก็จงนึกถึงคนเหล่านั้นให้เป็นแรงผลักดันให้เราสู้ อดทน และก้าวเดินต่อไป... "



        แนะนำตัว :  นางสาว จิราภรณ์ พิลาภ ชื่อเล่น มด บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหรียญทอง สาขาโภชนศาสตร์ การกำหนดอาหารและอาหารปลอดภัย คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประจำปีการศึกษา 2565 ด้วยระดับคะแนนเฉลี่ยสะสม  3.95 ค่ะ
        ความภาคภูมิใจ/ความประทับใจในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม :  ประทับใจเวลาที่คณะได้มีการจัดกิจกรรมที่มีการพบปะรุ่นพี่รุ่นน้องค่ะ  ทำให้เราได้รู้ว่าถึงเราจะจบมาจากมหาวิทยาลัยมหาสารคามที่อาจจะไม่เทียบเท่ากับสถาบันอื่นๆ ที่มีหลักสูตรหรือสิ่งอำนวยความสะดวกในการเรียนสอนที่ทันสมัยหรือครอบคลุม  แต่รุ่นพี่คนอื่นๆก็ทำให้เราได้เห็นถึงการที่เราจะพัฒนาตนเองได้ด้วยตนเองและประสบการณ์ต่างๆิที่เราได้รับมาจากที่เรียนหรือฝึกงานในโรงพยาบาล สามารถที่จะทำให้เรานั้นไปอยู่ในจุดที่เราต้องการได้ถ้าเราตั้งใจทำตามเป้าหมายค่ะ



        เคล็ดลับการเรียน : ก็ไม่มีอะไรพิเศษค่ะ ก็ตั้งใจเรียนเวลาอาจารย์สอนหรือมอบหมายงานให้ค่ะหรือถ้าสงสัยจะพยายามถามในคาบเรียนค่ะเพราะถ้าถามทีหลังจะลืม เป็นคนที่ขี้ลืมบ่อยมากค่ะแต่จะพยายามจำเนื้อหาเรียนตามความเข้าใจของเราเองแล้วจะทำให้เรานึกถึงได้ในแบบของเราเองค่ะ
        การจัดการความเครียดหรือปัญหาต่างๆที่เราเจอในระหว่างที่เรียนอยู่  :  ก็ถ้าเหมือนเวลาเราสอบกลางภาคหรือปลายภาคจะพยายามสรุปเนื้อหาอ่านก่อนค่ะพอเข้าใจคร่าวๆและค่อยทบทวนซ้ำอีกรอบก่อนสอบ1วันเพราะถ้าอ่านมานานแล้วจะลืมเหมือนกันค่ะ และก็ไม่ฝืนตัวเองค่ะถ้าอ่านแล้วง่วงก็นอนพักดีกว่าเพราะอ่านไปก็ไม่เข้าใจเหมือนเดิม จะพยายามนอนพักผ่อนให้เพียงพอค่ะและก็ถ้าสอบเสร็จก็จะไม่คิดตามหลังว่าทำไมไม่ตั้งใจอ่านเพราะเราก็พยายามที่สุดแล้วตอนนี้
        คติประจำใจที่ทำให้เราประสบความสำเร็จ : ก็ต้องตั้งใจเรียน เล่นได้สนุกได้ คนเราครั้งแรกเราสามารถผิดพลาดกันได้แต่พยายามเรียนรู้กับสิ่งที่เราผิดพลาดไปแล้วแก้ไขให้ดีขึ้นกว่าเดิมค่ะ



        แนะนำตัว :  สวัสดีครับ ผมชื่อ ปฏิรพ สมบัติกำไร ชื่อเล่น ร็อคกี้ บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหรียญทอง  สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาการสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประจำปีการศึกษา 2565 ด้วยระดับคะแนนเฉลี่ยสะสม  3.92  ผมเป็นเด็กบ้านนอกจาก อ. ทุ่งฝน จ.อุดรธานี มีโอกาสได้เข้ามาศึกษาที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และด้วยความช่วยเหลือของทุก ๆ คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคณะอาจารย์และเพื่อน ๆ ผมจึงสามารถมาอยู่ ณ จุด ๆ นี้ได้ครับ
       ความภาคภูมิใจในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม :  มหาวิทยาลัยมหาสารคามเป็นมหาวิทยาลัยที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้นิสิตอย่างเหมาะสม แต่ที่สำคัญที่สุดเลย คือ คณาจารย์และบุคลากรทุกท่านน่ารักมากครับ เป็นกันเอง เป็นห่วงเป็นใยและคอยช่วยเหลือนิสิตตลอดเวลา ผมภูมิใจที่ได้มาเรียนที่นี่ คิดถึงอาจารย์และบุคลากรทุกท่านมาก ๆ ครับ
        เคล็ดลับการเรียน : ผมมีความสนใจในด้านการเขียนโปรแกรมเป็นทุนเดิม ในจุดนี้เลยเป็นข้อดีของผมที่ทำให้ผมมีแรงผลักดันในการเรียนรู้สูง ช่วยให้ผมมีความตั้งใจและสามารถโฟกัสกับสิ่งที่อยากทำได้นานขึ้น และผมมักจะเอาความรู้ผมมีไปช่วยสอนเพื่อน ๆ อยู่บ่อย ๆ การสอนผู้อื่นจะช่วยจัดระเบียนความรู้และคิดของตัวเอง และความรู้ที่คลุมเคลือจะเริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้น และบางระหว่างการสอนก็จะเกิดคำถาม แปลก ๆ ที่เราอาจจะไม่เคยนึกถึงมาก่อนด้วยครับ คำถามแปลกๆพวกนี้ทำให้ผมมีความสนใจที่จะศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องที่ผมตอบไม่ได้


       
 อีกหนึ่งอย่างที่ทุกคนควรจะมีคือ Critical Thinking ซึ่งถือว่าเป็น 1 ใน 4 ของ "ทักษะที่สำคัญแห่งศตวรรษ ที่ 21" พูดง่าย ๆ ก็คือการต่อยอดความคิด การไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ มีการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ตัดสินใจจากหลักฐาน และไม่นำอารมณ์และทิฐิ (อีโก้) มาประกอบการตัดสินใจ ทักษะนี้จะช่วยให้การเรียนรู้และการตอบคำถามในเรื่องต่าง ๆ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทักษะนี้ไม่สามารถสร้างได้ในช่วงข้ามคืน แต่ทุกคนสามารถฝึกได้ครับ ผมขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ
        การจัดการความเครียดหรือปัญหาต่างๆที่เราเจอในระหว่างที่เรียนอยู่ : ส่วนตัวแล้วผมเป็นคนที่ไม่ค่อยเกิดความเครียดเท่าไหร่ ผมมักจะมีความสุขกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ผ่านเข้ามา ผมมักจะออกไปเดินคลายเครียด เดินหาของกินอร่อย ๆ ที่ผมชอบ และออกกำลังกายบ้างเพื่อให้ร่างกายได้คลายความเครียดออกไปทีละเล็กละน้อย  แต่ถ้าหากผมรู้สึกเกิดเบิร์นเอ้าท์ (หมดไฟ) ผมจะให้เวลาพักกับตัวเอง จะกำหนดไปเลยว่าวันนี้ ๆ จะหยุดพักทุกอย่าง พอหมดช่วงหยุดพักแล้วจึงเริ่มใหม่ ลองหาข้อมูลหรือไอเดียใหม่ ๆ และลองศึกษาเพิ่มเติมดูครับ เป็นการเว้นช่วงให้ผ่อนคลายทั้งร่างกายและความคิด มีเวลาจัดการความคิดของตัวเองเพิ่มขึ้น ไม่หักโหมมากจนเกินไป อย่าลืมนอนให้ครบ 7-8 ชั่วโมงด้วยนะครับ ถ้านอนไม่พอค่อยไปนอนทบวันหยุดเอา :)
        คติประจำใจที่ทำให้เราประสบความสำเร็จ : คติเยอะจนผมลืมไปหมดแล้วครับ เอาเป็นว่าหาของกินอร่อย กินเยอะ ๆ ออกกำลังกายพอประมาณ จะได้มีแรงฮึดสู้ต่อไปครับ :)



        แนะนำตัว : ดิฉัน น.ส.ณฐมน จรูญนันทวัฒน์ ชื่อเล่น ใหม่ บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหรียญทอง  สาขาสัตวศาสตร์ คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประจำปีการศึกษา 2565 ด้วยระดับคะแนนเฉลี่ยสะสม  3.86      ปัจจุบันได้ปฏิบัติงานอยู่ที่ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมอาหารสัตว์ (บมจ. ซีพีเอฟ (ประเทศไทย)) จ.ชลบุรี ในตำแหน่งสัตวบาลวิจัยสัตว์เคี้ยวเอื้องค่ะ
        ความภาคภูมิใจ/ความประทับใจในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม :  มหาวิทยาลัยมหาสารคามคือความภาคภูมิใจของดิฉันที่ได้มาเรียนที่นี่  ความรู้สึกครั้งแรกที่ได้เข้ามาอยู่ในนี้ รู้สึกว่าเป็นมหาลัยที่กว้างใหญ่มากๆ ค่ะ และความที่แต่เดิมเคยอาศัยอยู่โซนภาคกลาง ไม่ได้เคยได้มาใช้ชีวิตในโซนภาคอีสานเลย มีแค่นานๆครั้งที่ช่วงปิดเทอมจะได้มาอยู่ ทำให้รู้สึกกลัวว่าจะเข้ากับผู้คนที่นี่ไม่ได้  แต่พอได้เข้ามาอยู่นานๆ ได้เจอกับอาจารย์ และเพื่อนๆ ทั้งในคณะ ต่างคณะ และผู้คนอีกมากมาย จากการร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่มหาวิทยาลัยได้จัดขึ้นให้นิสิตอย่างหลากหลาย  นิสิตแต่ละคณะได้รู้จักกัน ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน และทำให้จากที่เคยรู้สึกว่ามหาวิทยาลัยนี้กว้างใหญ่เหลือเกิน  ก็ทำให้รู้สึกได้ว่ามหาลัยนี้เริ่มเล็กลง  เพราะคณาจารย์ เพื่อนๆ และผู้คนที่นี่เป็นคนน่ารัก อัธยาศัยดี และมีน้ำใจมากๆ ดิฉันรู้สึกมีความสุขและประทับใจมากที่ได้เรียนที่นี่ค่ะ

     
         เคล็ดลับการเรียน : ระหว่างที่อยู่ในชั่วโมงเรียนก็จะตั้งใจฟัง และพยายามทำความเข้าใจในสิ่งที่อาจารย์กำลังสอนซึ่งก็จะทำร่วมกับการเล็คเชอร์ไปด้วยค่ะ 
        การจัดการความเครียดหรือปัญหาต่างๆที่เราเจอในระหว่างที่เรียนอยู่ : เวลาที่รู้สึกเครียดก็จะไปอยู่กับเพื่อนค่ะ หรือบางทีก็จะไปหาของกินอร่อยๆ หรือเดินเล่นในห้าง ตลาด เพื่อบรรเทาความเครียดค่ะ
         คติประจำใจที่ทำให้เราประสบความสำเร็จ : “ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ ถ้าเรามุ่งมั่นและตั้งใจ”ค่ะ








Author

ผู้เรียบเรียง : จุฑามาศ ภิญโญศรี
Email : jutamas.p@msu.ac.th
หมายเลขติดต่อภายใน : 0942915414

ภาพประกอบบทความ

  :   กราฟิก : ปิยะฉัตร ธนภัทรธุวานันท์

Related Posts