ตามติดชิวิตนิสิตพยาบาล มมส "กว่าจะสวมหมวกขาว"

    พยาบาล ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งอาชีพที่คอยดูแลคนไข้ แต่คำว่าดูแลไม่เพียงแค่ดูว่าเขาเจ็บป่วยมาด้วยโรคอะไร   แต่ยังต้องรวมดูไปจนกระทั่งจิตใจของเขาด้วย เพราะหลังจากเจอคุณหมอมาแล้วตลอดเวลาที่คนไข้อยู่ในโรงพยาบาลก็คืออยู่ในความดูแลของพยาบาลทั้งหมด เราเคยสงสัยกันไหมคะว่าเขาต้องเรียนเกี่ยวกับอะไรบ้าง ถึงได้มีความรู้มากมายที่สามารถดูแลคนไข้ให้หายดีได้ วันนี้ MSU จะพาทุกคนไปตามติดกับชีวิตนิสิตคณะพยาบาลศาสตร์ ตามเรามาดูกันเลยค่ะ

แนะนำตัว 

    สวัสดีค่ะ ชื่อนางสาวภัคจิรา คำไสสุข หรือจะเรียกเฟิร์นก็ได้ค่ะ เป็นนิสิตคณะพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่3 มหาวิทยาลัยมหาสารคามค่ะ

    จุดเริ่มต้นของเฟิร์นคือการได้เห็นพี่สาวที่เรารู้จักกัน และสนิทกันมาตั้งแต่เด็ก เฟิร์นเห็นพี่เขาเรียนจบพยาบาลมาและได้ทำงานที่ดี มีชีวิตที่ดี เลี้ยงครอบครัวได้ไม่ลำบาก แต่ความคิดตอนนั้นคือ มีเงินเดือนเลี้ยงครอบครัวได้ก็จริง แต่งานก็หนักเช่นกัน แต่พอลองกลับมานึกอีกทีก็คิดว่า คณะพยาบาลเป็นคณะที่มีความเป็นวิชาชีพสูง  มีการงานที่มั่นคง ได้ดูแลคนอื่น ใช้ชีวิตโดยนึกถึงผู้อื่นได้ก็คงจะดีเหมือนกัน  เฟิร์นจึงตัดสินใจเลือกเรียนคณะพยาบาลศาสตร์ และด้วยความที่เราคุ้นเคยกับการมีแม่ที่ทำงานอยู่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพของตำบล เราก็ได้เห็นคนไข้ที่มาหาหมอ และรู้สึกมีความสุขจากการได้เห็นแม่ช่วยเหลือคนที่เขาเจ็บไข้ได้ป่วยมาหาหมอ ทำให้เฟิร์นรู้สึกอยากช่วยคนอื่นได้เหมือนกันค่ะ

    สำหรับพยาบาลถือว่าเป็นวิชาชีพอีกอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลย เพราะทุกวันนี้โลกของเรายิ่งหมุนเร็วเท่าไหร่ ผู้คนประชาชนทั้งหลายยิ่งต้องเสี่ยงกับการเกิดโรคใหม่ ๆขึ้นมาไม่ซ้ำอยู่เรื่อย ซึ่งต้องได้รับการดูแลรักษาจากหลาย ๆวิชาชีพ ไม่ว่าจะเป็นหมอ พยาบาล เภสัช นักเทคนิคการแพทย์ หรือรวมไปถึงสายสุขภาพทั้งหมด ล้วนมีความจำเป็นต่อชีวิตของมนุษย์ คณะพยาบาลจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากที่จะผลิตนิสิตให้ออกมามีความรู้ ความสามารถที่จะปฏิบัติงานของตนต่อชีวิตผู้อื่นได้ โดยใช้หลักการดูแลผู้ป่วยอย่างตรงไปตรงมา มีความเมตตากรุณา และซื่อสัตย์สุจริตต่อวิชาชีพของตนและผู้เข้ารับการรักษา (คนไข้) ให้เป็นอย่างดีค่ะ

    เริ่มต้นของการเข้ามาเรียนก็จะเป็นยุคของ Covid-19 เลยค่ะ แต่ก็มีกิจกรรมปี1 ที่สนุกมากๆ มีการเต้นสันทนาการ มีกิจกรรมโฮมหมอที่ตั้งขึ้นของคณะสายสุขภาพทั้งหมดมารวมกัน มีการเต้นสันทนาการสนุกสนานเฮฮา ได้เพื่อนใหม่เยอะมาก ๆ ทำให้เรียนรู้การใช้ชีวิตการอยู่ร่วมกับคนอื่นมากขึ้น เรียนไปด้วยทำกิจกรรมสนุกๆไปด้วยทั้งเหนื่อยทั้งสนุก และก็ได้รับพลังบวกในการเรียนที่ดีสุด ๆไปเลยค่ะ

    ช่วงปี 1 เข้ามาหนักหน่อยค่ะ เพราะต้องปรับตัวเยอะมาก ๆ ยังไม่มีเพื่อนเยอะ แล้วก็จับทางของการเรียนไม่ถูกเลย เฟิร์นจะแบ่งเวลาอ่านหนังสือออกเป็น 3 ช่วง ช่วงที่1 คืออ่านทบทวนที่เราเลคเชอร์จากคลาสเรียนมา ช่วงที่2 อ่านและจดสรุปเอาไว้สอบ ช่วงที่3 คืออ่านสรุปสอบ แต่เทอมแรกก็จะสาหัสหน่อย ๆ ค่ะ เพราะเฟิร์นยังไม่รู้แนวทางของข้อสอบ แต่ก็ผ่านมาได้ ขอแค่เราตั้งใจและอดทน ช่วงปี 2-3 เฟิร์นก็จะเริ่มมีเพื่อนเป็นกลุ่มๆแล้วก็จะมีการอ่านทบทวนกับเพื่อนเป็นช่วง ๆด้วยค่ะ สำหรับคณะนี้เรียนคนเดียวไม่ได้นะคะ ต้องมีเพื่อนเรียนค่ะ เรียนไปด้วยกันผ่านไปด้วยกัน เพราะเราคือนักสู้55555

    ถ้าให้พูดถึงคณะนี้ก็จะเริ่มจากการอยู่ปี 1 เราจะเรียนเกี่ยวกับวิชาพื้นฐาน เน้นทฤษฎีเป็นหลัก แต่จะมีเรียนวิชา Anatomy วิชาของคณะแพทย์ ซึ่งเราจะเรียนกับอาจารย์ใหญ่ ศึกษาเกี่ยวกับร่างกายของมนุษย์ มีเรียนชีวะวิทยาเกี่ยวกับการเพาะเชื้อต่าง ๆ เป็นต้น ปี1 เราก็จะเน้นเรื่องทฤษฎี ปี2 ก็จะหนักขึ้นมาอีกหนึ่งระดับซึ่งจะเน้นย้ำไปในเรื่องของพยาธิสภาพของโรคการเกิดโรคต่างๆ และมีวิชาเภสัชมาร่วมด้วยซึ่งจะเรียนเกี่ยวกับเรื่องยาต่างๆที่ใช้ในการรักษาโรค ประมาณนี้เลยค่ะ สำหรับเทอมที่ 3 จะมีเรียนซัมเมอร์ ซึ่งจะฝึกปฏิบัติการณ์วิชา Funda หรือที่เรียกกันว่าวิชาการพื้นฐานการพยาบาล ก็จะเน้นเกี่ยวกับเรื่องของการทำหัตถการต่าง ๆ ฝึกทำหัตถการจริง ๆกับผู้ป่วยฝึกให้การพยาบาล ส่วนเริ่มต้นของปี3 เราจะเน้นการฝึกปฏิบัติที่มากขึ้นซึ่งเริ่มแรกจะเรียนทฤษฎีและเริ่มออกฝึกตามแหล่งฝึกและวิชาต่าง ๆ จะมีความซับซ้อนและยากมากขึ้น ก่อนเราจะขึ้นฝึกปี3 เราก็จะพิธีรับหมวก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของนิสิตพยาบาลเวลาขึ้นฝึกจะทำให้เรามีความน่าเชื่อถือมากขึ้นค่ะ

    วิชาที่ชอบก็คือวิชา Pathology เราจะเรียนเกี่ยวกับพยาธิสภาพของโรคต่าง ๆ ว่าโรคนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร     เกิดจากอะไร อะไรคือสาเหตุหลักและอะไรคือสาเหตุร่วมด้วย มันสนุกมากๆค่ะ เพราะเราจะได้คิดตามว่า    โรคนี้เกิดขึ้นโดยมีสาเหตุมาจากสิ่งไหนได้บ้างค่ะ

ความประทับใจในรั้ว MSU 

    ความประทับใจที่ได้เข้ามาอยู่ในรั้วมมส ก็เริ่มจากเพื่อนที่คอยช่วยเหลือกันมาโดยตลอด เรียนด้วยกันทำงานด้วยกันแบบสบายใจสุด ๆเลยค่ะ และที่สำคัญความประทับใจอีกอย่างหนึ่งก็คือท่านอาจารย์ในคณะที่เป็นทุกอย่างให้เราแล้วจริง ๆค่ะ
ไม่ว่าจะเป็นด้านการเรียน ด้านการปรึกษาในเรื่องอื่น ๆ อาจารย์มีความรักและคำสั่งสอนที่ดีอยู่เสมอมา เฟิร์นประทับใจและรักมมสค่ะ 

    สำหรับน้อง ๆที่ยังไม่ทราบ หากสนใจอยากเรียนคระพยาบาลศาสตร์ ตอนนี้ไม่ใช่แค่วิทย์-คณิตที่จะเรียนได้นะคะ เพราะมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เราคณะพยาบาลเปิดรับเด็กสายศิลป์ด้วยค่ะ การเตรียมความพร้อมก็จะเป็นในเรื่องของการอ่านหนังสือเยอะ ๆ หัดทำข้อสอบให้เยอะ เพราะเฟิร์นเชื่อว่า ยิ่งเรารู้เยอะเท่าไหร่ เรายิ่งมีโอกาสมากเท่านั้น    น้อง ๆ สามารถติดตามเกณฑ์การรับสมัครได้ที่เพจคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามได้เลยค่ะ เกณฑ์การรับในแต่ละรอบอาจจะมีแตกต่างกันออกไปนะคะ สู้ๆค่ะ 

    เริ่มฝึกวิชาพื้นฐานการพยาบาลเทอมที่ 3 ของปี 2 หรือซัมเมอร์นั่นเองค่ะ ในส่วนของเทอมนี้ เราก็จะได้ปฏิบัติต่อคนไข้จริงๆ ลงมือทำจริงๆ ภายใต้ความดูแลของอาจารย์นิเทศ เรียนรู้งานของแต่ละวอร์ด การปฏิบัติหน้าที่ การปฏิบัติต่อคนไข้ที่ถูกหลัก ซึ่งต้องมีสติฝึกความเป็นคนแน่วแน่ ไม่ลังเล ปี 3 ตอนนี้ก็มีการฝึกที่เยอะขึ้น    จะเป็นการฝึก ป.วัยเด็กและวัยรุ่นขึ้น ฝึกโดยตรงกับทางโรงเรียนประถม อนุบาล เตรียมอนุบาล ฝึกเกี่ยวกับการวัดพัฒนาการของเด็ก ส่งเสริมในด้านที่บกพร่อง ป.ผู้ใหญ่ ก็ฝึกเกี่ยวกับพยาธิสภาพของโรคที่มากขึ้น         รู้โรคลึกขึ้นว่าคนไข้เป็นอะไรมา เกิดจากอะไร โยงไปหาสาเหตุไหนได้บ้าง การปฏิบัติกับคนไข้อย่างลึกกว่าวิชาพื้นฐานค่ะ

    คณะพยาบาลจริง ๆแล้วการขึ้นไปฝึกงาน เราจะเจอกับโรคที่เยอะ โรคที่ไม่คิดว่าจะมี และไม่คิดว่าจะเป็นได้ และความรู้เหล่านี้ เราสามารถนำความรู้ต่างๆบอกกล่าวคนใกล้ชิด คนในครอบครัวให้ปฏิบัติได้อย่างถูกต้องเพื่อหลีกเลี่ยงการเจ็บป่วยเหล่านั้น และนี้ก็เป็นสิ่งที่ให้มากกว่าพยาบาลค่ะ เพราะนอกจากการดูแลคนไข้   การดูแลคนในครอบครัวก็สำคัญและไม่ควรละเลยเช่นกันค่ะ

    อนาคตคิดว่าหลังเรียนจบ เฟิร์นจะสอบใบประกอบวิชาชีพให้ผ่าน 8 วิชาค่ะ และเฟิร์นก็จะยื่นสมัครงานโรงพยาบาลใกล้ ๆบ้าน เพราะเป็นคนค่อนข้างติดบ้าน คิดถึงที่บ้านไม่อยากไปอยู่ไกลเลยค่ะ และอีกหนึ่งมุมมองในอนาคตของเฟิร์นก็จะเรียนต่อเฉพาะทางมาเปิดคลินิกก็ได้ค่ะ แต่ก็อย่างว่านะคะอนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน สำหรับเฟิร์นวางแพลนคร่าวๆไว้ประมาณนี้ค่ะ

ฝากถึงคนที่สนใจอยากเรียนด้านนี้กันหน่อย/ฝากถึงน้องๆที่อยากเรียนคณะนี้ 

    สำหรับน้อง ๆที่สนใจ สามารถเข้ามาศึกษาเกณฑ์การรับสมัครได้ที่เพจของมหาวิทยาลัยได้เลยค่ะ เกณฑ์การรับแต่ละรอบจะแตกต่างกันไป คะแนนสอบตามเกณฑ์ มีความพร้อม ตั้งใจ มีจิตใจที่แน่วแน่ คิดว่าชอบจริง ๆ   มาเรียนเลยค่ะ คนอื่นทำได้เราก็ทำได้ สู้ๆนะคะถ้าสิ่งไหนเราตั้งใจแล้วจงทำให้สำเร็จ ลองให้เป็นประสบการณ์ดีกว่าไม่ได้ทำนะคะ ไม่ต้องไปคิดว่าเราจะไม่ติด ถ้าเราตั้งใจและเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี นั่นคือคำตอบของเราเราจะไม่เสียใจ ขอให้น้องๆตั้งใจและตามมาเรียนที่คณะเรานะคะ พี่ๆน้องๆอาจารย์ที่คณะน่ารักมากๆ         ให้คำปรึกษา มีกิจกรรมให้ร่วมสนุก มีทุนการศึกษามากมาย มีพี่ๆที่คอยซัพพอร์ตซึ่งกันและกันอยู่เสมอ และน้องจะไม่ผิดหวังเลยค่ะที่ได้เข้ามาเรียนคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามแห่งนี้

เรื่องโดย  : นางสาวพริบพันดาว สีสุรีย์

     นิสิตฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาภาษาไทย

     คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม