“สิ่งที่มีค่ามากกว่ารางวัลที่ได้รับ นั่นคือประสบการณ์ และความสุข ที่เราได้เรียนรู้ และได้สัมผัสด้วยตนเอง เพราะรางวัลที่ได้รับนั้นเป็นเพียงผลพลอยได้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ชัยชนะ แต่เชื่อว่าสิ่งที่ได้จากการเข้าร่วมกิจกรรมนั้นมีค่ามากกว่าถ้วยรางวัลเสียอีก” คำพูดของหญิงสาวผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น ใช้พรสวรรค์ด้านการรำบวกกับพรแสวงในการฝึกฝน จนทำให้เธอประสบความสำเร็จด้วยความสามารถของตนเอง มีรางวัลการันตีมากมาย เพราะเลือกใช้หัวใจในการนำทาง เดินไปในเส้นทางที่ชอบควบคู่ไปกับการเรียนได้อย่างดี เธอคือ กชกร ยศบุญเรือง (อาย) นิสิตชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาวสวยจากชมรมนาฏศิลป์และดนตรีพื้นเมือง (วงแคน มมส) ฝ่ายนาฏศิลป์ ผู้ไม่เคยทอดทิ้งความสามารถ และความชอบตนเอง  ไปทำความรู้จักเขาให้มากขึ้น ตามเรามาเลยค่ะ



แนะนำตัวเอง 
สวัสดีค่ะ ดิฉันนางสาวกชกร ยศบุญเรือง นิสิตชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม 

รางวัลที่เคยได้รับ
    - รางวัลที่ได้รับจะเป็น รางวัลเข้าร่วมประกวดราชินีไหซองสาเกตุนคร ปี2563
    - รางวัลชมเชย การประกวดการแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นไทย เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปี2564
    - รางวัลชมเชย การประกวดโชว์ลีลานางไหและหมากกั๊บแก๊บ ชิงถ้วยพระราชทานกรมสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ปี2565
- รางวัลที่ดิฉันได้รับล่าสุด เป็นการแข่งขันประกวดโชว์ลีลานางไหและหมากกั๊บแก๊บชิงถ้วยพระราชทาน กรมสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา โดยจัดการแข่งขันที่มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ซึ่งดิฉันสามารถเข้ารอบชิงชนะเลิศ 5 ทีมสุดท้ายจากทั้งหมด 16 ทีม และคว้ารางวัลชมเชยมาได้อย่างภาคภูมิใจค่ะ  

เกณฑ์ที่ใช้ในการคัดเลือก
รางวัลที่ได้รับนี้คัดเลือกมาจากองค์ประกอบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นความอ่อนช้อยสวยงามของลีลาท่าทางในการรำ ความเหมาะสมของเครื่องแต่งกาย การเข้าคู่ การเกี้ยวพาราสี อารมณ์ของนางไหและหมากกั๊บแก๊บ และในรอบชิงชนะเลิศนั้นจะต้องดูจากไหวพริบปฏิภาณของผู้เข้าประกวดแต่ละทีมว่าสามารถออกแบบโชว์ให้มีความน่าสนใจ ดึงดูดผู้ชม และกรรมการได้หรือไม่ รวมไปจนถึงการใช้ทักษะไหวพริบในการดีดไหให้ลงจังหวะของเพลง 



สิ่งสำคัญในการการเตรียมตัวเพื่อเผชิญความท้าทายบนเวทีการประกวด
ดิฉันคิดว่าสติ สมาธิ ไหวพริบ และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ที่สุดในการแข่งขันในครั้งนี้ค่ะ เพราะนางไหและหมากกั๊บแก๊บจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเพลงที่เปิดในรอบชิงชนะเลิศนั้นจังหวะเป็นอย่างไร จะเปลี่ยนจังหวะตอนไหน หรือเพลงนั้นมีกี่จังหวะ ถ้าหากเรามีสติรู้ว่าตอนนั้นเรากำลังทำอะไร เอาใจมาจดจ่ออยู่ที่การแข่งขันซึ่งจำเป็นจะต้องใช้สมาธิในการฟังเพลง คิดท่ารำแบบกะทันหัน ที่สำคัญคือเมื่อเราแสดงเป็นคู่สิ่งที่เราจะต้องมีเลยคือความเป็นทีมเวิร์ค การช่วยกันแก้ไขสถานการณ์หรือแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าตรงนั้นตอนนั้นให้ดีที่สุดและเกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุดค่ะ

ความรูัสึกที่ได้รับรางวัล
ดิฉันรู้สึกภูมิใจในตัวเองมาก ๆ ค่ะถึงแม้ว่าจะไม่ได้ชัยชนะนำถ้วยรางวัลกลับมาสู่สถาบันของเรา แต่ดิฉันเชื่อว่าสิ่งที่ดิฉันได้รับจากการเข้าร่วมแข่งขันในครั้งนี้คือความสุข ความสำเร็จ ดิฉันได้พัฒนาตนเองไปได้อีกขั้น พี่ ๆวงแคนสอนเสมอว่า “รางวัลที่ได้รับนั้นเป็นแค่ผลพลอยได้” สิ่งที่ดิฉันได้รับคือประสบการณ์ และดิฉันจะไม่มีวันหยุดพัฒนาตนเองแน่นอน ถึงแม้ว่าจะประกวดไม่ชนะแต่อย่างน้อย ๆ ก็สามารถชนะใจคนดูและคนที่รอเชียร์อยู่ไม่ว่าจะเป็นหน้าเวที หรือเชียร์ผ่านไลฟ์สด ดิฉันต้องขอขอบพระคุณผู้ที่มีส่วนร่วมทุกท่านทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นเบื้องหน้าหรือเบื้องหลัง และที่ขาดไม่ได้เลยคือกำลังใจจากทุกคนที่ส่งเข้ามาอย่างล้นหลามจนทำให้ดิฉันประสบความสำเร็จในครั้งนี้ค่ะ

จุดเริ่มต้นที่สนใจในเรื่องการฟ้อนรำ
ขอเท้าความก่อนนะคะ ด้วยดิฉันเคยอยู่ในชมรมนาฏศิลป์ของโรงเรียนตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น พอได้เข้ามาศึกษาต่อในรั้วมหาวิทยาลัยมหาสารคามแห่งนี้ดิฉันรู้สึกว่ายังไม่อยากจะทอดทิ้งความชอบและความสามารถของตนเอง จึงได้มีโอกาสไปสมัครชมรมนาฏศิลป์และดนตรีพื้นเมือง (วงแคน มมส) ฝ่ายนาฏศิลป์ ดิฉันได้รับโอกาสจากรุ่นพี่และทางชมรมให้ได้เข้าร่วมกิจกรรม ฝึกซ้อม ไปออกค่าย ไปแสดงในงานต่าง ๆ จนได้มีโอกาสฝึกฝนดีดไหประมาณ 1 ปีเต็ม ๆ ก่อนที่จะเริ่มลงแข่งเวทีแรกคือ การแข่งขันประกวดวงโปงลางชิงถ้วยพระราชทาน (รอบคัดเลือก) แต่ไม่สามารถเข้ารอบในที่สุด จากนั้นก็เริ่มหาเวทีประกวดเพื่อพัฒนาศักยภาพของตนเองมาเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน 



แบ่งเวลาเรียนควบคู่ไปกับการทำกิจกรรมที่เรารักอย่างไร
พี่ ๆ ที่วงสอนเสมอว่า “การเรียนต้องมาก่อนกิจกรรม กิจกรรมเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนเพียงเท่านั้น” โดยการทำกิจกรรมจะฝึกให้เราเป็นคนที่มีความรับผิดชอบมากขึ้น รู้จักการแบ่งเวลาให้เป็นระบบ กิจกรรมทำให้มีคนรู้จัก และเห็นความสามารถของเรามากยิ่งขึ้น พี่ที่วงแคนไม่เคนสอนให้โดดเรียนเพื่อมาออกงานเลยค่ะ เพราะว่าอยากสอนให้น้อง ๆ รู้จักรับผิดชอบในหน้าที่ของตนเอง นั่นคือการเรียนหนังสือ เพราะการเรียนทำให้คนมีความรู้ แต่การทำกิจกรรมนั้นทำให้เราทำงานเป็น รู้จักรับผิดชอบในหน้าที่ รู้จักการแบ่งเวลา ฝึกให้เราเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ มีระเบียบวินัย มีความอดทนอดกลั้น มีทักษะ และความสามารถติดตัวเราไว้ไปตลอดชีวิต ที่สำคัญที่ขาดไม่ได้ คือ แนวทางการปฏิบัติตน ต้องรู้จักอ่อนน้อมถ่อมตนค่ะ แม้ว่าได้รับรางวัลกลับมาแต่ก็ไม่ควรที่จะหยุดพัฒนาตนเองให้ดีกว่าเดิม หรือมองว่าตนเองเก่งแล้ว ดีแล้ว จนดูถูกศักยภาพของคนอื่น เราต้องรู้จักน้อบน้อมยินดีกับความสำเร็จของคนอื่น มีน้ำใจนักกีฬา และที่สำคัญคือต้องอย่าหยุดฝึกฝนเพราะว่า การได้แชมป์มานั้นว่ายากแล้ว การรักษาแชมป์ไว้นั้นยากมากกว่าค่ะ

ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ 
อุปสรรคและปัญหาที่พบตลอดช่วงเวลาที่ทำกิจกรรมคือ ความท้อแท้ ความกดดันตนเอง จนเกิดเป็นความเครียด และปัญหาของสุขภาพที่หักโหมจนเกินไปทำให้ป่วยง่าย แต่เมื่อไหร่ที่ดิฉันได้มาซ้อมที่ชมรม ได้มาพบพี่ ๆ และเพื่อนสนิทต่างคณะ มันกลับทำให้ความเครียดทุกอย่างหายไป เพื่อนๆ พี่ๆ ช่วยให้คำแนะนำ ช่วยแก้ไขปัญหาไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียนหรือเรื่องส่วนตัว เราสามารถปรับทุกข์ให้พวกเขาฟังได้ทุกเรื่อง
 
ความประทับใจ และความภาคภูมิใจในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม 
เมื่อพูดถึงมหาวิทยาลัยมหาสารคาม คนจะรู้จักในนามของเมืองแห่งการศึกษา มีเอกลักษณ์ มีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ สามารถผลิตนักศึกษาที่มีความรู้ความสามารถ ดิฉันไม่ลังเลที่จะมาศึกษาต่อในระดับชั้นปริญญาตรีที่นี่ มหาวิทยาลัยมหาสารคามได้มอบโอกาสที่สำคัญกับดิฉัน นั่นคือ การเปิดโอกาสให้นักศึกษาทุก ๆ อน ทุกระดับชั้นได้เลือกเรียนในสิ่งที่ชอบ และพัฒนาศักยภาพของตนเองจนประสบความสำเร็จ
จุดมุ่งหมายในอนาคต
จุดมุ่งหมายที่คาดหวังไว้ในอนาคตคือ ดิฉันอยากจะเป็นครูสอนวิชาภาษาไทย และอยากจะจัดทำชมรมนาฎศิลป์ในโรงเรียน โดยใช้ทักษะและความสามารถที่มีพานักเรียนไปแข่งขันทักษะไม่ว่าจะเป็นการใช้ทักษะภาษาไทย หรือทักษะทางด้านนาฏศิลป์ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงที่สุดค่ะ



แรงบันดาลใจ และข้อคิดดี ๆ ในการดำเนินชีวิต
แรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตดิฉันยึดรุ่นพี่ในชมรมวงแคนทุก ๆ คน เป็นแรงบันดาลใจค่ะ พี่ ๆ บางคนเรียนจบแล้วมีหน้าที่การงานที่ดี แต่ก็ยังไม่ทอดทิ้งความสามารถ ใครจะคิดว่าครูสังคมจะเล่นดนตรีได้เก่ง หรือครูภาษาไทยจะดีดไหได้  พี่ ๆ ทุกคนสามารถทำให้เห็นว่าการทำกิจกรรมไม่ได้ส่งผลต่อการเรียน ไม่ได้ทำให้เกรดแย่ลงถ้าหากรู้จักรับผิดชอบ
  ในส่วนของข้อคิด ดิฉันอยากจะฝากข้อคิดเอาไว้ว่า “สิ่งที่มีค่ามากกว่ารางวัลที่ได้รับ นั่นคือประสบการณ์ที่เราได้เรียนรู้และได้สัมผัสด้วยตนเอง ถ้าหากวันนี้เราทำมันออกมาอย่างสุดความสามารถแล้วก็ไม่มีอะไรจะต้องเสียใจ เราควรภูมิใจในตนเองและห้ามหยุดพัฒนาษศักยภาพของตนเองเด็ดขาด ถ้าหากว่าเราตั้งใจ…ก็ไม่มีอะไรจะมาขวางเราได้ค่ะ”
แนะนำ เชิญชวน น้อง ๆ มาเรียนที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ในฐานะของรุ่นพี่ มมส อยากจะบอกว่าทุก ๆ อย่างที่พี่ได้รับ ไม่ว่าจะเป็นโอกาส ความรู้ ความสามารถ    ที่ได้รับจากบ้านหลังนี้ ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่อยู่ในรั้วมหาลัยมหาสารคามแห่งนี้มีแต่ความอบอุ่น ได้พบมิตรภาพที่ดี สังคมที่ดี และอื่น ๆ อีกมากมาย มาเป็นครับครัวเหลืองเทาด้วยกันนะคะ มมส ยินดีต้อนรับค่ะ


เรื่องโดย  :   นางสาวมลฤดี โคตมูล
                    นิสิตฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาภาษาไทย
                    คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม 

Author

ผู้เรียบเรียง : จุฑามาศ ภิญโญศรี
Email : jutamas.p@msu.ac.th
หมายเลขติดต่อภายใน : 0942915414

ภาพประกอบบทความ

  :   กราฟิก : ปิยะฉัตร ธนภัทรธุวานันท์

Related Posts