ในยุคปัจจุบัน บุคลากรหลายคนต่างมองหาหนทางสร้างรายได้เสริมจากสิ่งที่ตนรักและถนัด ซึ่งนอกจากจะช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินแล้ว ยังเป็นพื้นที่ในการแสดงออกถึงความสามารถที่แตกต่างหลากหลายของแต่ละคนอีกด้วย สำหรับบุคลากรของมหาวิทยาลัยมหาสารคามก็เช่นเดียวกัน ความเชี่ยวชาญที่มีนอกเหนือจากงานหลักด้านการศึกษา ถูกต่อยอดกลายเป็นอาชีพเสริมที่น่าสนใจ และเป็นแรงบันดาลใจให้แก่สังคม


       
            หนึ่งในตัวอย่างที่สะท้อนภาพนี้ได้อย่างชัดเจนคือ อาจารย์ชลธิชา บรรหาร (ครูใย) ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาการเรียนรู้นักเรียน โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ฝ่ายประถม) ซึ่งแม้จะมีบทบาทหลักในฐานะครูภาษาไทย แต่ด้วยความถนัดและความเชี่ยวชาญส่วนตัว อาจารย์ยังสามารถต่อยอดเป็นอาชีพเสริมที่สร้างคุณค่า ทั้งในด้านรายได้และการแบ่งปันแรงบันดาลใจแก่ผู้คนรอบข้าง ถือเป็นอีกหนึ่งภาพลักษณ์ที่สะท้อนถึงความหลากหลายทางศักยภาพของบุคลากรมหาวิทยาลัยมหาสารคามอย่างแท้จริง



อะไรเป็นแรงบันดาลใจให้คุณเริ่มต้นทำอาชีพเสริมนี้?
        แรงบันดาลใจเริ่มจากการเจอวิกฤตชีวิต สามีตกงาน ตอนแรกเครียดมาก เพราะลูกกำลังเรียนหนังสือ 2 คน จากเคยมีรายได้ 2 คน เหลือเพียง 1 คน ทำให้ต้องหาทางออกใหม่ ใช้เวลาตั้งสติและลุกขึ้นสู้ จึงเริ่มศึกษาหาวิธีหารายได้เสริม  โชคดีที่มีคุณป้า (พี่สาวของสามี) ทำแหนมขายที่อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม จึงไปเรียนรู้วิธีการทำและลองลงมือจริงตั้งแต่เดือนเมษายน 2567 ก่อนเริ่มโพสต์ขายในเฟซบุ๊ก ความโชคดีคือเพื่อน ๆ และกัลยาณมิตรทั้งในโรงเรียนและมหาวิทยาลัยให้โอกาส สั่งซื้อเป็นจำนวนมาก แม้ช่วงแรกจะขาดประสบการณ์ในการขายออนไลน์และเกิดข้อผิดพลาดบ้าง แต่ก็เรียนรู้และพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จนได้สูตร “แหนมหมูครูใย” ที่อร่อย เก็บไว้ได้นาน ไม่ใส่สี ไม่ใส่สารกันบูด รสชาติคงที่ ปัจจุบันจำหน่ายได้ทั่วประเทศและสร้างรายได้เสริมให้ครอบครัวมากว่า 1ปี



ทำไมคุณถึงเลือกอาชีพเสริมนี้ แทนที่จะเป็นอาชีพเสริมอื่น?
        เหตุผลคือแหนมเป็นการถนอมอาหารที่เก็บไว้ได้นาน สามารถส่งขายออนไลน์ได้ และช่วยสร้างรายได้เสริมควบคู่กับงาน
ประจำ

คุณพบโอกาสหรือช่องทางในการเริ่มอาชีพเสริมนี้ได้อย่างไร?
        เริ่มจากการเห็นคุณป้า (พี่สาวของสามี) ขายแหนมหมูและแหนมวัวที่ขายดีและได้รับความนิยมในท้องถิ่น จึงเกิดแรงบันดาลใจทำตาม ต่อมาขยายสินค้าเพิ่ม เช่น ไส้กรอกหมู ไส้กรอกวัว เนื้อโคขุนแดดเดียว ฯลฯ จนมีลูกค้าประจำจากการขายออนไลน์



การบริหารจัดการระหว่างงานหลักและอาชีพเสริมคุณจัดการเวลาระหว่างงานหลักและอาชีพเสริมอย่างไร?
        ตนเองมุ่งทำหน้าที่หลักในฐานะครูและผู้บริหารให้เต็มที่ในช่วงเวลา 07.40 – 17.00 น. หลังจากนั้นจึงทำอาชีพเสริม เช่น ซื้อของ ห่อแหนม แพ็กสินค้า และส่งของ ตอนเช้าก่อนเข้างาน (07.00 – 07.30 น.) ก็จะตระเวนส่งลูกค้าภายในมหาวิทยาลัยที่เป็นลูกค้าประจำ



เคยเจอปัญหาในการบริหารเวลาระหว่างสองงานไหม และคุณจัดการอย่างไร?
        การทำหลายอย่างพร้อมกันทำให้เวลาพักผ่อนน้อยลง แต่ครูใยเลือกทำอาชีพเสริมในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และเวลานอกเวลาราชการ เพื่อไม่ให้กระทบต่องานประจำ โดยให้ความสำคัญกับงานประจำมากกว่าเสมอ



ผลลัพธ์และสิ่งที่ได้รับจากการทำอาชีพเสริมคุณได้รับอะไรจากอาชีพเสริมนี้ ทั้งในแง่รายได้ ทักษะ หรือประสบการณ์?
        การมีรายได้เสริมสำหรับใช้จ่ายในครอบครัว อีกทั้งยังได้ทักษะและประสบการณ์จริง แม้ช่วงแรกจะล้มลุกคลุกคลาน แต่ไม่เคยท้อแท้ กลับนำข้อผิดพลาดมาปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง



อาชีพเสริมช่วยพัฒนาทักษะที่สามารถนำมาใช้ในงานหลักได้หรือไม่?
  การทำอาชีพเสริมทำให้มีความอดทน ขยัน และสามารถนำประสบการณ์ไปสอดแทรกในการสอนเด็ก ๆ ได้ เพื่อให้เด็กเห็นว่าคนเรามีศักยภาพทำหลายสิ่งได้ หากเรียนรู้และพัฒนาตนเอง

คุณมองอนาคตของอาชีพเสริมนี้ไว้อย่างไร จะพัฒนาให้กลายเป็นอาชีพหลักหรือไม่?
        ตนเองมองว่าการขายออนไลน์เป็นประสบการณ์ที่สามารถต่อยอดและพัฒนาให้เป็นอาชีพหลักได้ในอนาคต



มีคำแนะนำอะไรสำหรับคนที่ต้องการเริ่มทำอาชีพเสริมแบบคุณ?
        การประกอบอาชีพมีหลายรูปแบบ อยู่ที่การเรียนรู้ ลงมือทำ และพัฒนาตนเอง ความผิดพลาดและความล้มเหลวเป็นบทเรียนสำคัญที่จะทำให้เราเข้มแข็ง หากเจอปัญหาให้ตั้งสติ เพราะทุกอย่างย่อมมีทางออกเสมอ

ติดต่อข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 
อาจารย์ชลธิชา บรรหาร (ครูใย) ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาการเรียนรู้นักเรียน โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ฝ่ายประถม) 
เบอร์โทรศัพท์ 043 970515 
หรือ Facebook : Cholthicha Banharn

Author

ผู้เรียบเรียง : สินีนาฎ พรั่งพร้อมกุล
Email : [email protected]
หมายเลขติดต่อภายใน : 0-4375-4315 (ภายใน) 1722

ภาพประกอบบทความ

  :   สินีนาฎ พรั่งพร้อมกุล/กราฟิก:คุณปิยะฉัตร ธนภัทรธุวานันท์

Related Posts