“ความมีวินัย” ไม่ใช่สิ่งที่มีติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่เป็นสิ่งที่ต้องสร้างขึ้นมาเอง แม้จะเป็นเรื่องที่ยาก และท้าทายมากแค่ไหน แต่ถ้าเรามีวินัย และความอดทนที่มากพอ ท้ายที่สุดเราก็จะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ เพราะเส้นทางสายนี้ไม่มีทางลัด นอกจาก “การลงมือทำ” และปัจจัยสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ประสบความสำเร็จได้ก็คือ “กำลังใจ” ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยพยุง โอบอุ้มตัวเราไปให้ถึงฝั่งฝัน เช่นเดียวกับ นายอิสราวุฒ กำพุฒ (แทน) นิสิตสาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา คณะศึกษาศาสตร์ ได้คว้ารางวัลมากมายจากการแข่งขันเพาะกายในรายการต่าง ๆ พยายามตั้งใจฝึกฝน ซุ่มซ้อมมาตลอดระยะเวลา 3 ปี โดยจากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่ต้องการออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง แปรเปลี่ยนมาเป็นนักกีฬาเพาะกายที่ประสบความสำเร็จได้ในที่สุด ต่อไปเราไปรู้จักกับเขาให้มากขึ้น ตามเรามาเลยค่ะ
แนะนำตัว
นายอิสราวุฒ กำพุฒ (แทน) นิสิตชั้นปีที่ 4 สาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพและการกีฬา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
รางวัลที่ได้รับจากการแข่งขัน
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 3 รายการ Thailand muscle and physique championships 2021
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 รายการ หนุ่มกายงาม สาวกล้ามสวย Thailand muscle contest 2021
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 รายการ ปักษ์ใต้คลาสสิค Thailand southern bodybuilding championships 2021
- รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 รายการ เพาะกายลุ่มน้ำโขง
รางวัลแห่งความภาคภูมิใจ
ผมได้ซุ่มซ้อม ฝึกฝน เป็นระยะเวลา 3 ปี เพื่อหวังว่าจะได้รางวัล และเอาชนะในการแข่งขันให้ได้ จนถึงเวลาในช่วงเดือนพฤศจิกายน งานแข่งขันรายการแรก ตั้งเป้าหมายแค่ได้เข้ารอบชิงชนะเลิศ 5 คนสุดท้ายก็ถือว่าได้ตามเป้าหมายแล้ว ผลการแข่งขันออกมาได้อันดับที่ 4 ดีใจมาก ๆ เพราะเป็นถ้วยรางวัลแรกในการแข่งขันกีฬาเพาะกาย
รายการถัดมาในช่วงเดือนธันวาคม ผลการแข่งขันได้อันดับที่ 3 พัฒนาขึ้นมาอีก 1 อันดับรายการถัดมาซึ่งเป็นรายการสุดท้ายของปี ช่วงปลายปี พัฒนาขึ้นอีก 1 อันดับ ผลการแข่งขันได้อันดับที่ 2 และรายการสุดท้ายของการแข่งขันเมื่อต้นปี เดือนมกราคม ผลการแข่งขันได้อันดับที่ 2 ซึ่งทุกรางวัลที่ได้มา ผมต่างก็ดีใจ และภูมิใจมาก ไม่เสียใจเลยว่าจะจบอันดับที่เท่าไหร่ แค่รู้ว่าสิ่งที่เราตั้งใจฝึกฝนมาไม่ศูนย์เปล่าก็ดีใจมากแล้วครับ
จุดเริ่มต้นและที่มาของการเล่นกีฬาเพาะกาย
ต้องย้อนกลับไปเกือบเมื่อ 9 – 10 ปีก่อนนะครับ ผมเป็นคนตัวเล็กมาก เตะฟุตบอลแข่งขันรายการต่าง ๆ มาถึงช่วงมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3 เกิดอุบัติเหตุโดนรถชนจนเกิดการบาดเจ็บที่หัวไหล่ เลยกลับมาคิดกับตัวเองว่าทำอย่างไรถึงจะตัวใหญ่แข็งแรง จึงศึกษาจนมาเจอว่า การยกน้ำหนักจะทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ประจวบเหมาะกับพ่อของผมท่านก็เล่นยกน้ำหนัก มีดัมเบลลูกเก่า ๆ อยู่ 1 ลูก บาร์เบลทำเองด้วยปูนบวกกับดันพื้น โหนบาร์ เกิดความชอบขึ้นมา จึงตัดสินใจเข้ายิมช่วงมัธยมปีที่ 4 - 6 เข้ายิมใกล้บ้าน เลิกเตะบอลไปเลยครับ และเริ่มเข้าร่วมการแข่งขันจุดประกายในกีฬา นี่คือในช่วงเข้ามหาวิทยาลัยปีที่ 1 มาจนถึงปัจจุบัน ผมมีที่ปรึกษาด้วยครับ ปรึกษาเรื่องการซ้อม การกิน แนวทาง การวางแผน หรือว่าทุก ๆ เรื่องเลยที่เราไม่สบายใจหรือกังวลครับ
เกี่ยวกับถึงกีฬาเพาะกาย
กีฬาเพาะกาย จะต้องมีความอดทน พยายาม สม่ำเสมอ ทั้งการฝึกซ้อม อาหาร การพักผ่อน จุดเด่นของกีฬาเพาะกายคือ เราจะต้องฝึกซ้อมให้มีมัดกล้ามเนื้อ และรูปร่างของเราให้มีความสมส่วน สวยงาม กฎกติกาของแต่ละรุ่นก็จะแตกต่างกันออกไปตามประเภท แบ่งออกเป็น เพาะกาย, แอธเลติกฟิสิกส์, สปอร์ตฟิสิกส์ ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีเกณฑ์การคัดเลือกเป็น ส่วนสูง น้ำหนัก ห้ามเกินเกณฑ์การคัดเลือก เช่น ผมสูง 169 ซม. รุ่นที่จะแข่งก็จะต้องเป็น ส่วนสูงไม่เกิน 170 ซม. ครับ
เกณฑ์ในการตัดสิน “กีฬาเพาะกาย” จะตัดสินด้วยการให้นักกีฬาผู้ที่เข้าร่วมการแข่งขันจะต้องมีรูปร่างที่สมส่วน มัดกล้ามเนื้อที่สวยงาม คม ชัด เด่น สะดุดตากรรมการ และการพรีเซ้นท์มัดกล้ามเนื้อให้ชัดเจน และน่าสนใจครับ
สิ่งที่สำคัญที่สุดของการเล่นกีฬาประเภทนี้ ถ้าให้แบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์ 100% นะครับ จะแบ่งออกเป็น 3 หลักพื้นฐาน ดังนี้ 1. การฝึกซ้อม 30% 2. อาหาร 40% 3. พักผ่อน 30%
ก่อนการแข่งขันมีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
การเตรียมตัว 1 วันก่อนแข่งเป็นวันที่สำคัญที่สุดครับ จะงดน้ำ ไม่กินน้ำเลย แต่จะกินคาร์โบไฮเดรต ข้าวสวย และลูกเกด กินทุก 2 – 3 ชั่วโมง ให้ได้ 4 – 5 มื้อ จะงดซ้อมทุกอย่าง นอกพักผ่อนเพื่อให้คาร์โบไฮเดรตเข้าสู่กล้ามเนื้อ และอยู่กับตัวเองมากที่สุด / มีที่ปรึกษาครับ ตลอดการแข่งขัน และเตรียมตัวเข้าแข่งขัน ผมจะปรึกษาทุกเรื่อง ทั้งการซ้อม อาหาร การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนการแข่งขันครับ
ผมมีตารางในการฝึกซ้อม คือ ผมจะฝึกซ้อม 6 วัน ต่อสัปดาห์ครับ โดยจะแยกซ้อมวันละส่วนของร่างกาย เช่น วันจันทร์ หน้าอก วันอังคาร ส่วนหลัง วันพุธ หัวไหล่ เวลาในการฝึกซ้อมอยู่ที่ 1 ชั่วโมงโดยประมาครับ
การรับประทานอาหารจะแบ่งออกเป็นแต่ละช่วง ถ้าช่วงใกล้เข้าแข่งขันจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนพื้นฐาน มีโปรตีน 70% คาร์โบไฮเดรต 20% และไขมัน 10% โปรตีน สารอาหารจะมาจาก อกไก่ เนื้อวัว และเนื้อปลา คาร์โบไฮเดรต จะมาจาก ข้าวขาว หรือข้าวกล้อง ส่วนไขมัน จะมาจาก ไข่ไก่ ถั่ว และน้ำมันมะกอก และช่วง OFF SEASON เพิ่มกล้ามเนื้อ จะแบ่งสัดส่วนอาหารความสำคัญเป็น คาร์โบไฮเดรต 50% โปรตีน 30% และไขมัน 20% ช่วง DIET จะแบ่งสัดส่วนอาหารความสำคัญเป็น คาร์โบไฮเดรต 40% โปรตีน 50% และไขมัน 10% ในส่วนของการกินอาหารเสริมจะมีดังนี้
- whey protein ช่วยซ่อมแซมกล้ามเนื้อ
- BCAA ช่วยป้องกันการสูญเสียของกล้าม
- Fish oil ช่วยเรื่องการทำงานของข้อต่อให้ทำงานได้ดีขึ้น
- วิตามินรวม การ recovery ร่างกาย และการขาดสารอาหารที่เราทานไม่ครบ
สำหรับผม ไม่มีปัญหาในระหว่างการฝึกซ้อมครับ เพราะว่ากีฬาเพาะกายนี้ คือ กีฬาที่ะต้องอยู่กับตัวเอง จะต้องเป๊ะทุกอย่าง ทุกสัดส่วน ทั้งการซ้อม การกินอาหาร การพักผ่อน และที่สำคัญที่สุด มีกำลังใจจากคนรอบข้างที่คอยสนับสนุน ทำให้มีแรงผลักดันมากยิ่งขึ้นครับ
ไอดอล ในการเล่นกีฬาเพาะกาย
คนแรกเลยคือ พ่อของผมครับ เห็นท่านยกดัมเบล เล่นกล้าม มาตั้งแต่ผมเด็ก ๆ เลยทำให้เกิดแรงบันดาลใจอยากมีกล้ามแบบพ่อบ้าง คนต่อมาก็พี่สาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพและการกีฬา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามครับ เห็นพี่เขาเข้าแข่งขันได้รางวัล ผมก็อยากมีบ้าง ซึ่งผมมีพี่เขาเป็นไอดอลเลยครับ พี่เขาเปิดฟิตเนสที่มหาสารคามด้วยครับ ชื่อ muscle man gym ตอนนี้ผมก็เป็นเทรนเนอร์ที่นั่นด้วย ทุกคนสามารถแวะมาใช้บริการได้นะครับ
อยากจะเล่นกีฬาประเภทนี้ จะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
ต้องมีความรู้ เพราะความรู้จะนำพาเราไปถึงเป้ามายได้เร็วขึ้น จะได้ไม่เสียเวลาลองผิดลองถูก หมั่นศึกษาเพราะปัจจุบันทางโซเชียลมีความรู้ทางด้านกีฬาเยอะมาก เข้าถึงง่าย นำความรู้ หลักการที่เราศึกษา นำมาปรับใช้กับตัวเอง พื้นฐาน 3 สิ่งที่สำคัญมากในกีฬานี้คือ การฝึก อาหาร พักผ่อน ทำอย่างสม่ำเสมอจนเป็นชีวิตประจำวันของเรา และรอแค่เวลาครับ ทำซ้ำ ๆ ทุกวัน อดทน เราจะได้สุขภาพที่ดี และรูปร่างที่ดี จนสามารถเป็นนักกีฬาเพาะกายได้แน่นอน
อยากฝากอะไรถึงทุกคนที่กำลังสนใจในกีฬาประเภทเพาะกายบ้าง
หากสนใจในกีฬาเพาะกายจะต้องมีความตั้งใจ อดทน สม่ำเสมอ ในการฝึกซ้อม เพราะกีฬาประเภทนี้จะต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน และก็ต้องหมั่นศึกษาหาความรู้ ซึ่งความรู้เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้ไปถึงเป้าหมายแบบไม่หลงทาง เพราะการลองผิด ลองถูก อาจจะทำให้เราเสียเวลาไปอีก ถ้าเราไปถึงเป้าหมายที่เราตั้งไว้แล้ว เราจะรู้สึกภูมิใจในตัวเองมาก ๆ เพราะในสิ่งที่เราทุ่มเทมา ทั้งแรงกาย แรงใจ จะช่วยทำให้เราไปถึงจุดหมายได้ครับ
ความรู้สึก/ความประทับใจที่ได้รับรางวัล
ผมดีใจมากครับ เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้มาก ตั้งใจฝึกฝน บ่มเพาะจนถึงเวลาที่เหมาะสม ทุกรางวัลที่ได้รับมามีคุณค่ามาก ๆ สำหรับผม ณ วินาทีที่ได้รับรางวัลผมตื้นตันใจ อยากที่จะร้องไห้แต่ร้องไห้ไม่ออกครับ ดีใจมาก ๆ จริงครับ
เราวางเป้าหมายในอนาคตไว้อย่างไรบ้าง
เป้าหมายของผมคือ อีกแ2 – 3 ปี จะเป็นนักเพาะกายทีมชาติไทยครับ และเปิดฟิตเนสเป็นของตัวเอง เลี้ยงดูครอบครัว พ่อแม่ มีฐานะที่มั่นคงครับ
แนวคิดในการใช้ชีวิต
ผมเป็นคนที่ถ้าจะตั้งใจจะทำอะไรก็จะทำให้เต็มที่ ผลจะออกมายังไงก็ช่างมัน แค่เราเต็มที่กับมัน อดทน พยายาม สม่ำเสมอ รอแค่เวลาเท่านั้น เวลาคือคำตอบว่าสิ่งที่เราทุ่มเทลงไปมันไม่สูญเปล่า
เชิญชวนนอง ๆ ที่สนใจมาเรียนต่อที่ สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา มมส
ขอเชิญชวนน้องที่สนใจเข้ามาศึกษาต่อที่สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬานะครับ น้อง ๆ คนไหนที่อยากจะเป็นเทรนเนอร์,
นักเวชศาสตร์, ผู้ฝึกสอนโค้ชกีฬา, นักจิตวิทยา อาจารย์ทุกท่านในสาขานี้ ให้โอกาสนิสิตทุกคนที่ตั้งใจ ผลักดัน สั่งสอน อบรมให้ความรู้ สาขานี้อยู่กันแบบระบบพ่อ แม่ ลูก อาจารย์ และนิสิตทุกคนสามารถพูดคุย ปรึกษาได้ทุกเรื่อง ทำให้ผมรู้สึกว่าสาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาที่ มมส ให้อะไรมากกว่าการที่มาเรียนหนังสือ น้อง ๆ คนไหนที่สนใจก็ขอเชิญชวนเข้ามาศึกษาที่สาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคามครับ
เรื่องโดย : นางสาวมลฤดี โคตมูล นิสิตฝึกประสบการณ์วิชาชีพ ชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาภาษาไทย
คณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์