ทุกความสำเร็จเกิดขึ้นได้เพราะ “ความพยามยาม” ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งที่ทำให้มนุษย์เราเกิดจุดมุ่งหมายในชีวิต แต่หากมีความพยายามเพียงอย่างเดียวไร้ซึ่งความสามัคคี จุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้อาจจะลุล่วงไปได้ยาก เพราะความสามัคคี คือหัวใจหลักของการทำงานเป็นทีม คือพลังและแรงขับเคลื่อนให้เราก้าวเดินต่อไปข้างหน้า แม้ว่าจะมีอุปสรรคมากน้อยเพียงใด แต่ถ้าเรามีความเป็นอันหนึ่งเดียวกันแล้ว เราก็จะมีแรงขับเคลื่อนให้ผ่านพ้นอุปสรรคนั้น ๆ ไปได้ด้วยดีเสมอ และประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกันกับทีม "พิกกี้บูบู กับ ผลงาน “มนุษย์ล่องหน” ซึ่งคว้ารางวัลชนะเลิศ จากการประกวดภาพยนตร์โฆษณาเพื่อสังคม และได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี" วันนี้ MSU ONLINE จะพาทุกท่านไปรู้จักกับพวกเขา "ทีมพิกกี้บูบู" ตามเรามาค่ะ
แนะนำตัว
นางสาวนภัสสร น้อยแดง นางสาวพัทรดา อัปการัตน์ นายกฤติพงศ์ จำปาคำ นิสิตชั้นปีที่ 3 ภาควิชานิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการสารสนเทศ ชื่อทีม พิกกี้บูบู ค่ะ
รางวัลที่ได้รับ
รางวัลชนะเลิศ : การประกวดภาพยนตร์โฆษณาเพื่อสังคม ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ชื่อผลงาน : มนุษย์ล่องหน
หน่วยงานที่จัดการแข่งขัน : ทรูปลูกปัญญา
วัตถุประสงค์โครงการนี้คือโครงการอะไร มีที่มาอย่างไร
โครงการเปิดโอกาศให้นิสิต-นักศึกษา ระดับอุดมศึกษาทุกสถาบัน, ทุกคณะ, ทุกชั้นปี ทั่วประเทศ มาร่วมกันสร้างสรรค์เรื่องราวเพื่อบอกต่อความดีที่เกิดขึ้นในชุมชน ในจังหวัด หรือในภูมิภาคของคุณ มาส่งต่อให้สังคมได้รับรู้
จุดเริ่มต้นหรือแรงบันดาลใจในการทำผลงานชิ้นนี้
เริ่มจากอาจารย์แนะนำให้ลองส่งประกวด พอได้เริ่มทำเราก็พยายามทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด และอยากเข้ารอบเพื่อพิสูจน์ตัวเองในการสร้างสรรค์ผลงาน
พล็อตเรื่อง "มนุษย์ล่องหน"
พล็อตเรื่อง การทำความดีแต่ไม่มีคนรู้ไม่มีคนเห็นก็ไม่ต่างจากการเป็นมนุษย์ล่องหน ถ้าอยากให้มนุษย์ล่องหนมีตัวตนทุกคนต้องช่วยกันแชร์เรื่องราวความดีของเขา ในผลงานเราจึงเล่าเรื่องราวการทำดีของมนุษย์ล่องหน เมื่อมีคนแชร์เรื่องราวของเขาออกไปให้คนอื่นรับรู้ ทำให้เขามีตัวตนขึ้นมา การที่เราแชร์เรื่องราวดี ๆ ของคนอื่นเป็นทั้งการส่งต่อเรื่องราวดี ๆ และยังเป็นการให้กำลังใจคนทำดีอีกด้วยค่ะ
เวลาถ่ายทำนาน/อุปสรรคและปัญหาที่พบระหว่างจัดทำผลงาน
ใช้เวลาตอนถ่ายทำ 1 วัน ตัดต่อและแก้ไขงานประมาณ 10 วัน มีการปรับแก้หลายรอบให้รอบเพื่อให้ได้ผลงานออกมาดีที่สุด และอุปสรรคที่พบในระหว่างที่เราถ่ายทำ มี 2 เรื่องใหญ่ๆ ที่เป็นบททดสอบให้เราแก้ปัญหาเฉพาะหน้า คือนักแสดงที่ได้เลือกกันไว้นั้น ไม่สามารถมาได้ในวันถ่ายจริง เราต้องหานักแสดงใหม่กะทันหัน และเรื่องแสงขณะถ่ายทำไม่สามารถถ่ายได้ ทำต้องเปลี่ยนสถานที่ในการถ่ายทำ ซึ่งทั้งหมดนั้นเราก็สามารถแก้ปัญหาและผ่านพ้นมันมาได้ค่ะ
เล่าให้ฟังถึงการทำงานเป็นทีม (Teamwork)
การทำงานเป็นทีมนั้นสำคัญมาก ในการทำงานนั้น เรามีการพูดคุยและปรึกษากันเยอะมากค่ะ เรามีการวางแผนการทำงานร่วมกันก่อนลงมือทำ และให้ทุกคนร่วมแสดงความคิดเห็น และแลกเปลี่ยนความคิดในการทำงานร่วมกันทุกขั้นตอน รวมถึงเวลามีปัญหาเราจะร่วมกันแก้ปัญหาและกำลังใจกันเสมอค่ะ
ประสบการณ์ที่ได้รับจากการแข่งขันในครั้งนี้
จากประสบการณ์ในการแข่งขันครั้งนี้ ทำให้เราได้เข้าใจถึงการทำงานเป็นทีมเพื่อให้เกิดความสำเร็จ โดยเราจะต้องมีการวางแผนการทำงานที่ดีในการสร้างสรรค์ผลงาน ตั้งแต่เริ่มวางพล็อตจนถ่ายทำ เทคนิคการทำงานต่าง ๆ การทำงานเป็นทีมและกับการติดต่อประสานงาน การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าร่วมกัน เพื่อให้งานออกมาดีที่สุด ซึ่งเราทุกคนภูมิใจกับผลงานชิ้นนี้มากค่ะ
บอกเล่าความรู้สึกเมื่อได้รับรางวัลในครั้งนี้
ดีใจและภูมิใจมาก ที่ผลงานที่ช่วยกันสร้างสรรค์ออกมาถูกใจกรรมการ เพราะทุกคนในทีมตั้งใจกันมาก และได้เผยแพร่เรื่องราวความดีของคนต้นเรื่องที่นำมาเสนอในชิ้นงานนี้
ฝากข้อคิดดีๆถึงเพื่อน ๆ น้อง ๆ ที่อยากเข้าร่วมแข่งขันและประสบความสำเร็จแบบนี้บ้าง
เวลาแข่งขันเราต้องเชื่อมั่นในตัวเองว่าเราทำได้ ลงมือทำเต็มที่กับทุกขั้นตอนในผลงานของเรา พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับสมาชิกในทีมเยอะ ๆ เพื่อให้ได้ความคิดที่ดีที่สุด
แนะนำ เชิญชวน น้องๆ มาเรียนที่ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
สำหรับน้องๆ ที่อยากมาเรียน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ไม่ว่าจะเป็นคณะหรือสาขาไหน มหาวิทยาลัยเราเป็นมหาวิทยาลัยที่มีคุณภาพ มีการสอนที่ครอบคลุม สภาพแวดล้อมในมหาวิทยาลัยก็ดีมาก ๆ อยากแนะนำให้น้อง ๆ มาเรียนที่นี่ มาเป็นพี่น้องในรั้วเหลืองเทาแห่งนี้ด้วยกันค่ะ :)