มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ขอแสดงความยินดีกับนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่มีผลการเรียนเป็นอันดับ 1 กับ “เหรียญรางวัลเรียนดี” กองทุนเพื่อการศึกษาและวิจัยทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ ในพระราชูถัมภ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ประจำปี พ.ศ. 2563 จาก วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) วันนี้ MSU ONLINE เราจะพาทุกท่านมารู้จักกับเธอ ตามเรามาเลยค่ะ
แนะนำตัว
นางสาวสุนิสา จุปะมะนัย ชั้นปีที่ 4 สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
“เหรียญรางวัลเรียนดี” ที่ได้รับ
รางวัลที่ได้รับเป็นรางวัลสำหรับนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ที่เรียนดี เหรียญรางวัลเรียนดี กองทุนเพื่อการศึกษาและวิจัยทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ ในพระราชูถัมภ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ประจำปี พ.ศ. 2563 จาก วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.)
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าพระราชทานพระราชานุญาต ให้วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ อันเชิญพระนามาภิไธยย่อ ม.ว.ก. มาประดิษฐานบนเหรียญรางวัลเรียนดี กองทุนเพื่อการศึกษาและวิจัยทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ ในพระราชูถัมภ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เพื่อเป็นรางวัลเรียนดีแก่ นิสิต นักศึกษา คณะวิศวกรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 ที่มีความประพฤติดี มีผลการเรียนดี และสอบได้เป็นที่ 1 ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ โดยมีผลสอบคะแนนเฉลี่ยสะสมตั้งแต่ 3.60 ขึ้นไป จากผลการเรียนไม่น้อยกว่า 3 ปีย้อนหลังติดต่อกัน (หลักสูตร 4 ปี) และไม่เคยสอบตกในรายวิชาใด ๆ ที่ได้ลงทะเบียนเรียนมาอย่างต่อเนื่อง
จากความภาคเพียร สู่ความภาคภูมิใจ “เหรียญรางวัลเรียนดี”
เหรียญรางวัลเรียนดีที่ได้รับนี้ เป็นผลจากความพยายามตลอดการเรียนในมหาวิทยาลัย นอกจากจะสร้างความภูมิใจให้กับตนเองแล้ว ยังสร้างความภูมิใจให้กับครอบครัว และญาติพี่น้อง โดยเฉพาะยายของดิฉัน ท่านนั่งรอดูข่าวในพระราชสำนักในวันที่ดิฉันเข้ารับรางวัล ความปลาบปลื้มใจมากค่ะ
เรียนวิศวะอย่างไรให้ได้เกรดสูงๆ
ดิฉันคิดว่าเพราะความพยายาม มุ่งมั่น ตั้งใจ และที่สำคัญคือขยัน ขยันอ่านหนังสือ ขยันทำการบ้าน ขยันศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ ถ้าคิดว่าไม่เก่งเรื่องนี้ก็ต้องอยู่กับมันให้มากๆ ฝึกให้มากๆ ฝึกจนกว่าจะเก่ง และจะท่องไว้เสมอว่าคนเก่งไม่สู้คนขยัน และไม่ใช่แค่การเรียนวิศวะเท่านั้น แต่การเรียนในวิชาสาขาอื่นๆ หากมีความขยัน มุ่งมั่นตั้งใจ ก็จะสามารถได้ผลการเรียนที่พึงพอใจได้ค่ะ
“วิศวะ มมส” คือบ้านหลังใหญ่ในรั้วเหลืองเทา
เปรียบเหมือน “คณะวิศวกรรมศาสตร์” คือบ้านหลังใหญ่ มีความรัก ความอบอุ่น ความเอาใจใส่จากคณาจารย์ เพื่อน และพี่ๆ ในคณะที่มอบความรู้สึกเป็นกันเองตลอดเวลา ซึ่งหากเกิดความสงสัยในเรื่องใด อาจารย์ท่านสามารถให้คำตอบ ให้คำแนะนำเราได้เสมอ ไม่ว่าจะมีทุนหรือกิจกรรมของหน่วยงานต่างๆ ก็จะมีการประกาศลงเพจเพื่อให้นิสิตที่มีความสนใจได้สมัคร และสำหรับการส่งใบสมัครการเข้ารับเหรียญรางวัลเรียนดีนี้ อาจารย์ทางสาขาไฟฟ้า ได้ส่งให้และให้ข้อมูลในการสมัคร และเมื่อผลการประกาศออกมาว่าดิฉันได้รับเหรียญรางวัล และมีงบประมาณสนับสนุนเพื่อเดินทางเพื่อเข้ารับรางวัลที่กรุงเทพมหานครด้วยค่ะ
“how to เรียนวิศวะที่ว่ายาก ให้ได้ดี ตรงนี้มีคำแนะนำ
การเรียนวิศวะ ส่วนตัวของดิฉันนั้นคิดว่ายากเพราะคำนวณค่อนข้างเยอะ แต่อาจจะเพราะเราชอบการคำนวณมาตั้งแต่สมัยมัธยม เลยทำให้สามารถเรียนผ่านมาได้ ต้องมีการวางแผนในการเรียน คือต้องเข้าเรียนทุกคาบเพื่อไม่ให้พลาดในเนื้อหาที่เรียน ทำงานส่งทุกครั้ง ห้ามขาดเพราะนั่นคือการฝึกฝน เมื่อถึงเวลาสอบก็จัดสรรเวลาในการอ่านหนังสือสำหรับแต่ละวิชาให้เหมาะสม หากวิชาไหนยากสำหรับเรา ก็อ่านมากหน่อย ฝึกทำโจทย์เยอะๆหน่อย สำหรับตัวดิฉันแล้วไม่ได้ตั้งเป้าหมายว่าจะต้องได้เกรด A ทุกวิชา แต่จะตั้งใจในทุกๆ วิชาที่เรียนค่ะ
ยินดีต้อนรับน้องใหม่ทุกคน สู่บ้านหลังใหญ่ วิศว มมส ในรั้วเหลืองเทา
สำหรับน้องๆ ที่ต้องการเรียน หรือสนใจในคณะวิศวกรรมศาสตร์ เราเปิดสอนหลายสาขาให้น้องๆ ได้เลือกเรียนตามความสนใจ ความถนัดของน้องๆ สำหรับสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าที่พี่เรียนนั้น จะสอนตั้งแต่พื้นฐานเรื่องวงจรไฟฟ้า เครื่องมือวัดทางไฟฟ้า ระบบคอนโทรล ไฟฟ้าแรงสูง จนถึงการออกแบบระบบไฟฟ้าในตัวอาคาร ดังนั้นขอให้น้องๆเตรียมตัวมาให้ดีนะคะ
มีความตั้งใจ มุ่งมั่น พกความขยันมาด้วย (เยอะๆ ด้วยนะคะ) เพียงเท่านี้น้องๆก็สามารถเรียนได้ตลอดหลักสูตรค่ะ
ความตั้งใจเมื่อเรียนจบ
หลังจากที่เรียนจบ คิดว่าจะสมัครสอบ กว. (ใบอนุญาตเพื่อประกอบอาชีพวิศวกร) และอาจจะรอให้สถานการณ์ปัจจุบันดีขึ้นก่อนแล้วค่อยสมัครงานในบริษัทที่สนใจ และอาชีพที่สนใจคือ “พนักงานการไฟฟ้า” เพราะใช้ความรู้ตรงกับที่เราเรียนมา แต่ก็จะทำงานในบริษัทเพื่อหาประสบการณ์ได้สักพักก่อนค่ะ
ข้อคิดดีๆ ในการดำเนินชีวิต
ทุกปัญหาหาย่อมมีทางออก คิดดี คิดบวก หมั่นเติมความสุขและความสนุกสนานให้ชีวิตบ้าง
