เมล่อน นับว่าเป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่หลายคนชื่นชอบ ด้วยกลิ่นที่หอมหวาน และรสชาติที่หวานฉ่ำน้ำ ไม่แปลกใจเลยใช่ไหมล่ะคะว่า ทำไมเมล่อนจึงเป็นผลไม้ที่หลายคนนิยมบริโภคกันมากจนถึงปัจจุบันนี้ นอกจากรสชาติที่อร่อยถูกปากแล้ว ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายอีกด้วย วันนี้สาร MSU ONLINE จะพาทุกคนไปรู้จักกับผลไม้ชนิดนี้ให้มากขึ้นกันค่ะ



ทำความรู้จัก เมล่อน (Muskmelon) ผลไม้รสหวานฉ่ำประจำฤดูร้อน
    เมล่อน หรือ เมลอน (Muskmelon) เป็นพืชในตระกูล Cucurbitaceae มีถิ่นกำเนิดมาจากทวีปแอฟริกา มีหลักฐานบันทึกว่าชาวอียิปต์เคยปลูกแตง (คือ เมล่อน/แคนตาลูปในปัจจุบัน) เมื่อ 500 ปีที่แล้ว โดยพระเจ้าชาร์ลส ที่ 8 พระมหากษัตริย์ประเทศฝรั่งเศส (Charles VIII l’Affable) นำแตงมายังฝรั่งเศสและประเทศอื่นๆ ในทวีปยุโรป และตั้งชื่อผลไม้ชนิดนี้ว่า แคนตาลูป (Cantaloupe) โดยชื่อนี้นั้นมีที่มาจากเมืองหนึ่งในประเทศอิตาลี ที่มีชื่อว่า แคนตาลูโป้ (Cantalupo)

ข้อมูลโภชนาการ
    เมล่อนเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน วิตามินเอ โดยข้อมูลโภชนาการของเมล่อน 1 ถ้วย ปริมาณ 177 กรัม มีดังนี้
        พลังงาน 64 แคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต 16 กรัม ไฟเบอร์ 1.4 กรัม โปรตีน 1 กรัม ไขมัน 0 กรัม วิตามินซี 5 คิดเป็น 3% ของปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน วิตามินบี 6 คิดเป็น 8% ของปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน โฟเลต คิดเป็น 8% ของปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน วิตามินเค คิดเป็น 6% ของปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน โพแทสเซียม คิดเป็น 12% ของปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน แมกนีเซียม คิดเป็น 4% ของปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน



ประโยชน์ของเมล่อนที่คุณอาจไม่เคยรู้

ลดความดันโลหิตสูง
    เมล่อนเป็นผลไม้ที่มีโซเดียมต่ำและมีโพแทสเซียมสูง อาจช่วยรักษาระดับความดันโลหิตให้แข็งแรง อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงของความดันโลหิตสูงและโรคหัวใจอีกด้วย

บำรุงกระดูก
    ในเมล่อนอุดมไปโฟเลต วิตามินเค และแคลเซียม ที่มีส่วนสำคัญในการบำรุงกระดูก ช่วยป้องกันการสึกหรอของกระดูกและช่วยเสริมสร้างให้กระดูกแข็งแรง

เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว
    หลังการออกกำลังกาย เพียงรับประทานเมล่อนหรือน้ำเมล่อน จะช่วยเพิ่มความสดชื่นให้คุณพร้อมเติมความชุ่มชื่นให้กับผิวอีกด้วย

เสริมคอลลาเจนให้ผิว
    เมล่อนมีวิตามินซีสูง ที่มีความเกี่ยวข้องในการผลิตคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนช่วยในการซ่อมแซมผิวหนังไม่ให้เสื่อมสภาพก่อนวัย นอกจากนี้วิตามินซียังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีประสิทธิภาพในปกป้องผิวอีกด้วย

เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
    เป็นที่ทราบกันดีว่า วิตามินซี นั้นช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ปกป้องผิวจากแสงแดด ป้องกันการติดเชื้อทางเดินหายใจและรักษาระบบต่างๆภายในร่างกาย เช่น โรคปอดบวมและโรคไขข้อ

ระบบย่อยอาหาร
    เมล่อนนั้นมีไฟเบอร์ ที่ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก ช่วยเพิ่มแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้

บำรุงดวงตา
    สารประกอบแคโรทีนอยด์ (Carotenoid) ในเมล่อนช่วยบำรุงสุขภาพดวงตา ช่วยให้การมองเห็นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ที่มา  :  https://www.sanook.com/health/21645/

Author

ผู้เรียบเรียง : จุฑามาศ ภิญโญศรี
Email : jutamas.p@msu.ac.th
หมายเลขติดต่อภายใน : 0942915414

ภาพประกอบบทความ

  :   กราฟิก : ปิยะฉัตร ธนภัทรธุวานันท์

Related Posts