การศึกษาและความเชี่ยวชาญ สำเร็จการศึกษาจากคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ระดับปริญญาตรี สาขาการประถมศึกษา (โครงการคุรุทายาท) ในปี พ.ศ. 2540 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางการเป็นครูผู้สอนที่มีความมุ่งมั่นและอุทิศตน ยังเดินหน้าพัฒนาความรู้ด้วยการศึกษาต่อในระดับปริญญาโท สาขาการวัดผลการศึกษา สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทในปี พ.ศ. 2544 และศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาการบริหารและพัฒนาการศึกษา สำเร็จการศึกษาในปี พ.ศ. 2567 ความรู้และความเชี่ยวชาญที่สะสมมาได้ ช่วยให้เป็นผู้นำที่เข้าใจปัญหาและวิธีการพัฒนาการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เส้นทางอาชีพที่โดดเด่น
ด้วยประสบการณ์การทำงานด้านการศึกษามากว่า 27 ปี เริ่มต้นอาชีพในฐานะ ครูผู้สอน เป็นก่อนที่จะก้าวสู่ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการโรงเรียน และ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา บุรีรัมย์ เขต 1 โดยทุ่มเทแรงกายแรงใจในการบริหารจัดการการศึกษาให้มีคุณภาพอย่างต่อเนื่องตลอดมา
ผลงานและความสำเร็จ
ตลอดเส้นทางการทำงาน ได้ริเริ่มและผลักดันโครงการต่างๆ เพื่อพัฒนาการศึกษา เช่น สถานศึกษาต้นแบบอาหารกลางวัน และ สถานศึกษาต้นแบบโรงเรียนขนาดเล็ก และได้เข้าไปมีบทบาทเป็น เลขาธิการสมาคมผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษาแห่งประเทศไทย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญและความไว้วางใจที่ได้รับจากวงการการศึกษาของประเทศไทย
นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัลต่างๆ ที่แสดงถึงความทุ่มเทและความเป็นเลิศในอาชีพ ได้แก่ รางวัลข้าราชการพลเรือนดีเด่น, รางวัลคุรุสดุดี, รางวัลเสมาลูกเสือ, และ รางวัลผู้บังคับบัญชาลูกเสือดีเด่น ตลอด 3 ปีซ้อน ผลงานที่โดดเด่นเหล่านี้แสดงถึงความมุ่งมั่นและความสำเร็จที่สะท้อนคุณภาพการทำงานอย่างเป็นที่ประจักษ์
กลยุทธ์การบริหารและความเชี่ยวชาญ มีความเชี่ยวชาญด้าน กลยุทธ์การบริหารโรงเรียนขนาดเล็ก โดยมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรร่วมกัน ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งช่วยให้โรงเรียนขนาดเล็กสามารถพัฒนาได้อย่างยั่งยืนและเต็มประสิทธิภาพ
ช่องทางการติดต่อ
โทรศัพท์ : 098-3576953
ID Line : jlsangtopo
บรรยากาศชีวิตหอพักและความทรงจำที่ไม่เคยจาง
สมัยที่พี่เรียนที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส) เป็นช่วงเวลาที่มีนิสิตทุกชั้นปีรวมกันประมาณ 600 คน เรียกได้ว่ารู้จักกันหมด ใครรักใครชอบใครก็รู้กันไปทั่วมหาวิทยาลัย บรรยากาศหอพักในปีแรกเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างมิตรภาพ นิสิตส่วนใหญ่จะพักหอใน ทำให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างใกล้ชิด การใช้จักรยานหรือเดินไปเรียน ก็ทำให้ทุกคนได้พูดคุยและได้รู้จักกันมากขึ้น
มีกิจกรรมสนุกสนานระหว่างนิสิต เช่น กีฬา 5 หอพัก เปิดโอกาสให้ได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น และกิจกรรมกลางคืนที่หน้าหอพักในทุกวัน จะเห็นรุ่นพี่รุ่นน้องมารวมตัวกันเล่นหมอลำ หรือพูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง ทุกเย็นหลังเลิกเรียนจนถึงสองทุ่มก็จะคึกคักเป็นพิเศษ และสิ่งที่ทำให้ช่วงเวลานี้สนุกสนานและเป็นที่จดจำ คงหนีไม่พ้นการแอบหนีไปดูหมอลำ ไปเที่ยวงานกาชาด หรือแม้แต่การขอเพลงจีบกันทางสถานีวิทยุใกล้ๆ หอพัก บรรยากาศเหล่านี้สร้างมิตรภาพและความผูกพันที่ยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน
ทักษะชีวิตและการเรียนรู้ที่ปรับใช้ได้จริง
การเรียนรู้ในมหาวิทยาลัยไม่เพียงแค่ในห้องเรียน แต่ชีวิตหอพักได้สอนให้พี่รู้จักการปรับตัว การเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี โดยเฉพาะเมื่อพี่ได้รับบทบาทเป็นประธานหอหญิง ต้องดูแลน้อง ๆ ดูแลกฎระเบียบ ความประหยัด และการป้องปรามสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ ทักษะเหล่านี้กลายเป็นบทเรียนสำคัญที่พี่นำมาใช้ในชีวิตจริง กิจกรรมอาสาต่าง ๆ ก็ช่วยสร้างทักษะการวางแผนและการทำงานเป็นทีม ทั้งการร่วมแรงร่วมใจเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย การสื่อสารและเปิดใจระหว่างการออกค่ายช่วยให้เราเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ และประสบการณ์เหล่านี้ก็ช่วยให้พี่เป็นผู้นำที่น้อง ๆ ยังคงเคารพและรักจนถึงวันนี้
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ในภูมิภาค แต่มีมาตรฐานการศึกษาที่เทียบเท่ากับมหาวิทยาลัยชั้นนำในระดับประเทศ พี่เกิดและเติบโตที่มหาสารคาม จึงภูมิใจที่ได้เห็นมหาวิทยาลัยในถิ่นฐานบ้านเกิดของตนเองเติบโตและก้าวหน้า การปลูกฝังความรักและความสามัคคีผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ช่วยสร้างเครือข่ายมิตรภาพระหว่างนิสิตที่แข็งแกร่ง ซึ่งทำให้เราสามารถพึ่งพากันได้แม้จบไปแล้ว
ข้อคิดในการใช้ชีวิต
"รู้อะไรไม่สู้รู้จักกัน" การสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งเป็นสิ่งที่มีค่ามาก เพราะมันช่วยให้เรามีพวกพ้องที่พร้อมจะสนับสนุนกัน ยิ่งเป็นลูกหลานเหลือง-เทาด้วยกัน ก็ยิ่งทำให้การช่วยเหลือกันในสังคมกว้างขวางและแข็งแรงมากขึ้น
อยากฝากถึงนิสิตรุ่นใหม่ว่า จงใช้เวลาที่มหาวิทยาลัยให้คุ้มค่า ยามเรียนก็เรียนจริงจัง แต่ยามเล่นการทำกิจกรรม ก็ขอให้เข้าร่วมอย่างเต็มที่ เพราะกิจกรรมเหล่านี้จะช่วยสร้างทักษะชีวิตที่มีค่า ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในอนาคตของน้องๆ อย่าเรียนแค่วิชาการ แต่ให้เรียนรู้วิชาชีวิตด้วย มหาวิทยาลัย คือ พื้นที่ที่ให้น้องๆได้เรียนรู้เรื่องชีวิตได้ดีที่สุดก่อนออกไปทำงานค่ะ
เชิญชวนให้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ มมส
ถึงแม้บรรยากาศจะเปลี่ยนไปบ้างตามกาลเวลา แต่มหาวิทยาลัยมหาสารคามยังคงเป็นสถานที่ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เรียนรู้และเติบโตอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะมาจากที่ไหน ทุกคนมีโอกาสที่จะพัฒนาตนเองเพื่อก้าวสู่ความสำเร็จในชีวิตได้จากที่นี่ค่ะ