นักวิจัย มมส เร่งขยาย เพาะพันธ์ ต้นเยลลี่ (CINCAU HIJAU) หรือต้นเฉาก๊วยเขียว ที่เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่มีสรรพคุณมากมาย และเพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าการแปรรูป ส่งเสริมให้เป็นพืชเศรษฐกิจ ในการสนับสนุนให้เกษตรกร มีทางเลือกในการเพิ่มรายได้ โดยการนำไป เพาะ ขยายพันธุ์ เพื่อจำหน่ายเป็นต้นพันธุ์  หรือ นำไปแปรรูปเป็นเมนูสุขภาพ เป็นเครื่องดื่มเย็น และสามารถนำไปเป็นส่วนผสมของขนมหวานที่น่าสนใจ ในสรรพคุณ และสีสันที่สวยงาม


         
        ต้นเยลลี่ (CINCAU HIJAU) หรือต้นเฉาก๊วยเขียว ยังมีการค้นพบสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติ มีคลอโรฟิลล์ที่สามารถดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ และมีสารต้านอนุมูลอิสระ ซาโปนินที่พบในใบซินเซา และตัวซาโปนินมีประโยชน์ที่สามารถใช้ในการลดไข้ และคุณสมบัติอื่นอีกมากมายที่คุณจะต้องรู้จักกับต้นเยลลี่ (CINCAU HIJAU) หรือต้นเฉาก๊วยเขียว ภายใต้การนำของ อาจารย์ ดร.ศุภชัย สุทธิเจริญ รองคณบดีฝ่ายจัดการทรัพยากรและพัฒนานิสิต  คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม

กล่าวถึงที่มาของงานวิจัย
ด้วยความชื่นชอบต้นไม้แปลก และพันธุ์พืชที่หายาก จึงทำการศึกษา และเริ่มสะสมได้พันธุ์พืชจากสถานที่ต่างๆ เพื่อนำมาทำการทดลอง และพัฒนาสามารถนำไปส่งเสริมองค์ความรู้ ให้เกษตรกรในชุมชน และเป็นทางเลือกในการสร้างรายได้ในครัวเรือนได้ “ต้นเยลลี่ หรือต้นเฉาก๊วยเขียว หรือต้นวุ้น” ไม่ระบุแน่ชัดว่ามีแหล่งกำเนิดจากที่ใด เท่าที่ศึกษาค้นหาข้อมูลทำให้ทราบว่า บางสายพันธุ์มีต้นกำเนิดที่ประเทศอินโดนีเซีย และประเทศเวียดนาม แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ชนิดแบบต้น และ แบบเลื้อยเป็นเถา ลักษณะพิเศษของต้นเยลลี่ หรือต้นเฉาก๊วยเขียว “คือเมื่อนำใบมาแช่น้ำแล้วทำการขยี้ผ่านไปสักพัก จะเกิดเป็นวุ้นโดยที่ไม่ต้องผสมผงวุ้นแต่อย่างใด “ผู้วิจัยจึงเกิดแนวคิดที่จะนำมาขยายพันธุ์ เพาะพันธุ์ เพื่อทำการศึกษา และพัฒนาวิธีการเพาะปลูก และเล็งเห็นโอกาส ที่จะนำไปส่งเสริมให้เกษตรกร ได้ทำการเพาะปลูก สามารถนำไปแปรรูป และเพิ่มมูลค่าของผลผลิตต่อไปในอนาคต



ต้นเฉากล้วยเราทำการเพาะปลูกเองหรือไม่  และต้นเฉากล้วยเจริญเติบโตได้ดีในอุณภูมิแบบไหน
ขณะที่ทำการทำแปลงสาธิต และทดลองในพื้นที่ภายในฟาร์มเกษตร คณะเทคโนโลยี (พื้นที่นาสีนวน) มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ลักษณะดินที่เหมาะสมในการเพาะปลูกควรมีค่า pH อยู่ระหว่าง 6.5 – 7.5 มีลักษณะร่วน และมีอินทรียวัตถุ ไม่ชอบน้ำขัง สามารถปลูกได้ทั่วภูมิภาคของประเทศไทย



กรรมวีธีการทำมีความยุ่งยากหรือไม่ 
การนำต้นเยลลี่ หรือต้นเฉากล้วยเขียว ไปแปรรูป เพื่อเพิ่มมูลค่าส่วนใหญ่จะนำไปทำเป็นวุ้น และนำมาผสมในเครื่องดื่มปรุงรสตามต้องการ โดยมีสีสันที่สวยาม น่าทาน และมีประโยชน์ “ซึ่งวิธีการทำเป็นวุ้นจากต้นเยลลี่ หรือต้นเฉากล้วยเขียว ไม่มีความยุ่งยาก เพียงนำใบต้นเยลลี่ หรือต้นเฉาก๊วยเขียว ประมาณ 10-15 ใบ นำไปขยี้ในน้ำอุ่นปริมาณ 300-500 มิลลิลิตร นำไปแช่ในตู้เย็นประมาณ 1 ชั่วโมง” ก็สามารถนำไปไปรับประทาน หรือนำไปผสมเป็นเครื่องดื่มเย็นปรุงรสชาติตามใจชอบ