ช่วงนี้ฝนตกบ่อยอาจจะเป็นอุปสรรคและปัญหาให้กับใครหลายๆ คน ทั้งเรื่องการเดินทาง ทั้งเรื่องสุขภาพ ด้วยความห่วงใยในสุขภาพของทุกๆท่าน สาร MSU ONLINE มีเมนูอาหารที่ควรรับประทานในหน้าฝนมาฝากกัน ทั้งนี้ล้วนแล้วแต่เป็นเมนูที่ช่วยป้องกันการเป็นหวัดแทบทั้งสิ้น จะมีเมนูอะไรบ้างนั้น ตามเรามาค่ะ
1. แกงส้มมะละกอ
แกงส้มมะละกอ จะมีผักหลายชนิดที่สามารถปรุงเข้าไปได้ การรับประทานผักหลายชนิดนั้นจะช่วยในเรื่องของระบบขับถ่าย ลดไขมันต่ำ และยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระต่อร่างกาย ในเครื่องแกงนั้นยังมีสมุนไพรที่ช่วยลดหวัดในหน้าฝนได้ด้วย อย่างเช่น กระเทียม หอม ข่า ตะไคร้ เป็นต้น
2. น้ำพริก
การรับประทานน้ำพริกนั้นไม่ใช่ได้แต่ความอร่อยเพียงอย่างเดียว แต่ยังได้คุณสมบัติในการป้องกันการชรา แถมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยเป็นเกราะในการป้องกันมลพิษต่าง ๆ จากสิ่งแวดล้อม อีกทั้งส่วนประกอบในน้ำพริกยังสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อ มีสารต้านมะเร็ง และลดไขมันในเส้นเลือดได้อีกด้วย
3. ต้มจืดมะระยัดไส้หมูสับ
เราอาจจะได้ประโยชน์จากการกินผักหรือเนื้อสัตว์ในต้มจืดแล้ว เรายังได้ประโยชน์จากการกินมะระที่ใครหลายคนไม่ชอบ แต่รู้หรือไม่ว่าประโยชน์ของมันนั้นมากมาย ยกตัวอย่างเช่น ช่วยบำบัดและรักษาโรคเบาหวานระยะเริ่มต้น ช่วยย่อยน้ำตาลในร่างกาย ช่วยแก้ปัญหาโรคปวดเข่าในกลุ่มของผู้สูงอายุ อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการหวัด แก้ร้อนในกระหายน้ำได้ด้วย
4. ยำถั่วพู
หลายคนอาจจะชอบอาหารประเภทนี้ ไม่เพียงแต่ความแซ่บ เพราะเรายังได้ประโยชน์จากถั่วพูที่เป็นผักที่มีวิตามิน เอ,ซี, อี ค่อนข้างสูง สามารถแก้อาการอ่อนเพลีย เป็นยาบำรุงกำลังของคนป่วยหนัก มีกากใยอาหารมาก ทำให้ระบบขับถ่ายเรานั้นเป็นไปได้ปกติ ท้องไม่ผูก ช่วยบำรุงร่างกาย แก้ร้อนใน กระหายน้ำได้
5. น้ำขิง
การดื่มน้ำขิงนั้นจะช่วยเผาผลาญพลังงานในร่างกายของเราได้ดี เพราะน้ำขิงมีฤทธิ์ร้อนเมื่อดื่มเข้าไปจะช่วยปรับอุณหภูมิในร่างกายให้เข้าที่เข้าทางหรือเผาผลาญไขมันส่วนเกินออกไปได้มากขึ้น แถมเรื่องระบบขับถ่ายของเสียในร่างกายไม่ติดขัด เป็นการลดน้ำหนักแบบธรรมชาติง่ายๆ โดยใช้สมุนไพร ไม่ต้องอดอาหาร แถมยังช่วยให้ร่างกายอบอุ่น ดีต่อสุขภาพของเราในช่วงหน้าฝนนี้อีกด้วย
6. ผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี
รับประทานผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี เช่น ส้ม ฝรั่ง มะขามป้อม มะละกอสุก กีวี ฯลฯ เป็นต้น เนื่องจากว่าการบริโภควิตามินซีจะช่วยป้องกันโรคไข้หวัดได้ แถมยังสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายอีกด้วย
ที่มา https://mgronline.com/goodhealth/detail/9600000057209