“โอกาสมีให้ทุกคนที่พร้อม จงพัฒนาตนให้พร้อมเพื่อคว้าโอกาส” นี่คือแนวคิดที่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กิจติพงษ์ ประชาชิต หรือ "เอส" ศิษย์เก่าดีเด่นมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประจำปี 2567 ด้านสร้างคุณประโยชน์แก่สังคมและมหาวิทยาลัย ยึดมั่นมาตลอดเส้นทางการศึกษาและการทำงาน เขาสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะและการออกแบบ และยังเป็นฟันเฟืองสำคัญในการพัฒนาแบรนด์ทุเรียนภูเขาไฟ ผ้าทอเบญจศรี และขับเคลื่อนงานวัฒนธรรมของจังหวัดศรีสะเกษให้เป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและระดับโลก วันนี้ สาร MSU ONLINE จะพาทุกท่านไปรู้จักและพูดคุยกับเขาตั้งแต่วันแรกที่ก้าวเข้าสู่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จนถึงวันนี้ที่เขากลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักศึกษาและคนในท้องถิ่น มาติดตามได้จากบทสัมภาษณ์นี้ค่ะ

แนะนำตัว
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กิจติพงษ์ ประชาชิต Kittipong Prachachit (เอส)
จบการศึกษา
- ศิลปกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยนเรศวร จบปี 2557
- วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาสื่อนฤมิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จบปี 2552
- ศิลปกรรมศาสตรบัณฑิต สาขานฤมิตศิลป์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จบปี 2546
ปัจจุบันทำงาน : อาจารย์ประจำสาขาวิชาศิลปะและการออกแบบ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ
และผู้จัดการร้านป้ายซีจีดีไซน์
ช่องทางการติดต่อ Facebook : Es Kittipong และ Facebook Page : ศรีสะเกษมีดี
บอกเล่าความรู้สึกที่ได้รับรางวัลศิษย์เก่าดีเด่น มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
การได้รับรางวัลจากมหาวิทยาลัยที่หล่อหลอมให้ผมเป็นทั้งคนดีและมืออาชีพ ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ผมภูมิใจเสมอที่ได้เป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหาสารคาม และในวันนี้ ความภาคภูมิใจยิ่งทวีคูณ เมื่อได้รับการยกย่องให้เป็นศิษย์เก่าดีเด่น ถือเป็นแรงผลักดันให้ผมมุ่งมั่นสร้างสรรค์สิ่งดีๆ เพื่อตอบแทนสังคมต่อไป
อยากให้เล่าถึงประสบการณ์ทำงาน /ผลงานที่ผ่านมา /ผลงานที่โดดเด่น/ความเชี่ยวชาญ
ผมจบทางปริญญาตรีและปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ผมเคยเป็นอาจารย์ผู้ช่วยสอนที่สาขาสื่อนฤมิต คณะวิทยาการสารสนเทศ ชีวิตผมผูกพันอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้อยู่นับ 10 ปี ผมได้นำเอาความรู้ทั้งตอนที่เป็นนักศึกษา และตอนทำงานเป็นอาจารย์จากรั้วมหาวิทยาลัยมหาสารคามมาใช้ในการพัฒนาจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งได้นำมาใช้พัฒนาทั้งนักศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ และพัฒนาสังคม และท้องถิ่นที่นี่ด้วย โดยเฉพาะการได้ขับเคลื่อนงานสร้างแบรนด์ทุเรียนภูเขาไฟจังหวัดศรีสะเกษ จนเป็นที่รู้จักของชาวโลก การสร้างแบรนด์ผ้าทอเบญจศรี ให้เป็นผ้าอัตลักษณ์ของจังหวัดศรีสะเกษ ทำให้ชุมชนและผู้ประกอบการ OTOP มีรายได้จากการจำหน่ายผ้ามากยิ่งขึ้น
ได้มีโอกาสไปดูแลงานทางด้านวัฒนธรรมให้กับจังหวัดศรีสะเกษ เช่น เทศกาลดอกลำดวนบาน สืบสานประเพณีสี่เผ่าไทศรีสะเกษ งานฉลองเมืองศรีสะเกษ งานสี่เผ่าไทไพรบึง งานแซนโฏนตา งานซาวด์ศรีสะเกษ งานเทศกาลทุเรียนภูเขาไฟ และงานวิจัยของ บพท. หรือหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ ที่ได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และการแสดงจากทุนทางวัฒนธรรม อีกทั้งยังได้นำเสนองานวัฒนธรรมของจังหวัดศรีสะเกษให้เป็นที่รู้จักของชาวไทยได้อย่างกว้างขวาง
ผ่านเพจศรีสะเกษมีดี เพจ๔เผ่าไทศรีสะเกษ และเพจศรีสะเกษกันเอง

นอกจากนั้นยังได้นำเอาความรู้ ประสบการณ์ และทักษะที่ได้ศึกษามา มาใช้ในการถ่ายทอดความรู้ผ่านงานวิทยากรของหน่วยงานต่างๆ ทั้งในจังหวัดศรีสะเกษ และต่างจังหวัด เช่น สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด สำนักงานเกษตรจังหวัด สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัด ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สํานักงานพาณิชย์จังหวัด และสํานักงานวัฒนธรรมจังหวัด

บอกเล่าถึงบรรยากาศระหว่างเรียน รวมถึงประสบการณ์ดีๆ เมื่อครั้งเป็นนิสิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
อาคารสถานที่ของมหาวิทยาลัยมหาสารคามสวยงาม และห้องเรียนต่างๆ เอื้ออำนวยความสะดวกสบายและคุณภาพของการเรียนการสอนเป็นอย่างยิ่งครับ ผมมีความสุขมากๆ ระหว่างเรียน มีเพื่อนดี อาจารย์ที่มีความรู้ความสามารถในการถ่ายทอดให้เรา มีสิ่งแวดล้อมดี สิ่งดีๆ เหล่านี้ได้หล่อหลอมให้ผมมีความรู้ และที่สำคัญคือมีมุมมองและทัศคติที่ดีต่อการทำงานในปัจจุบัน
ทักษะที่ได้รับระหว่างเรียนในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม นำไปปรับใช้ได้อย่างไรบ้าง
ทักษะที่ผมได้รับจากการเรียนที่มหาวิทยาลัยมหาสารคามและนำมาใช้ในชีวิตการทำงานของผม คือทักษะในการออกแบบ ทักษะในการเรียนรู้ด้วยตนเอง และทักษะในการเข้าสังคม ครับ ซึ่งผมอยากจะบอกว่า จริงๆ แล้วมีทักษะอีกมามายที่ผมได้รับมาจากมหาวิทยาลัยมหาสารคามแห่งนี้ครับ
ความภาคภูมิใจในการเรียนที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
สมัยนั้นการสอบเข้าเรียนต่อในระดับปริญญาตรี ปริญญาโทถือว่าเป็นเรื่องยาก เพื่อการแข่งขันค่อนข้างสูงมาก และพอรู้ตัวว่าตัวเองสอบติดที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ดีใจและภูมิใจเป็นอย่างมาก ที่สำคัญกว่าการสอบเข้าเรียนได้ คือการได้ใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้จนเรียนจบ และมีโอกาสได้นำความรู้มารับใช้สังคมและประเทศชาติของเรา
ข้อคิดดีๆ ในการใช้ชีวิต
โอกาสมีให้ทุกคนที่พร้อม จงพัฒนาตนให้พร้อมเพื่อคว้าโอกาส
ในฐานะที่เป็นรุ่นพี่ศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จ อยากให้ฝากถึงน้องที่ๆ กำลังเรียน
อยากบอกว่า วิชาความรู้จะเกิดผลที่ยิ่งใหญ่ถ้าใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคมครับ
เชิญชวนน้องๆ มาเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
หากน้องๆ กำลังมองหาสถาบันการศึกษาที่จะช่วยเติมเต็มความฝัน พร้อมหล่อหลอมคุณให้เป็นทั้งคนเก่งและคนดี ทั้งในด้านวิชาการ ทักษะวิชาชีพ และคุณธรรมจริยธรรม ที่นี่มีหลักสูตรที่ครอบคลุมทุกศาสตร์ อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำแนะนำ และสิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยมหาสารคามคือคำตอบครับ