หัวข้อข่าว : ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลพระธาตุนาดูนทองคำ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๓ ประเภทศิษย์เก่าดีเด่น
นายรณวริทธิ์ ปริยฉัตรตระกูล เกิดเมื่อวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๐๗ มีภูมิลำเนาอยู่ที่ตำบลหนองพอก อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาการศึกษาบัณฑิต สาขาวิชาภาษาอังกฤษ จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตมหาสารคาม ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาจิตวิทยาการศึกษา จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม และปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาสังคมศาสตร์ (เอเชียศึกษา) จาก Magadth University สาธารณรัฐอินเดีย
นายรณวริทธิ์ ปริยฉัตรตระกูล ปฏิบัติงานด้านต่างๆ ทั้งหน้าที่ราชการและหน้าที่ด้านสังคมมาอย่างต่อเนื่อง โดยรับราชการครูและผู้บริหารสถานศึกษา ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๕๓๑ ๒๕๕๗ ดำรงตำแหน่งประธานเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์อีสาน พุทธศักราช ๒๕๕๓- ๒๕๕๗ เป็นผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์อีสาน ตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๕๗ ปัจจุบัน เป็นผู้จัดการสหกรณ์เกษตรอินทรีย์ร้อยเอ็ด จำกัด มาตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๕๙ ปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังดำรงตำแหน่งประธานเครือข่ายศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และเลขานุการคณะกรรมการเครือข่ายศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร รวมถึงประธานเครือข่ายศูนย์ข้าวชุมชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และเลขานุการคณะกรรมการ ศูนย์ข้าวชุมชนประดับประเทศ ตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๕๖๑ ปัจจุบัน และเป็นสมาชิกวุฒิสภา ปีพุทธศักราช ๒๕๖๒ ปัจจุบัน โดยเป็นกรรมาธิการเกษตรและสหกรณ์ และกรรมาธิการพาณิชย์และอุตสาหกรรม
นายรณวริทธิ์ ปริยฉัตรตระกูล ปรับเปลี่ยนอาชีพจากการรับราชการมาเป็นระยะเวลา ๒๖ ปี มาทำการเกษตร โดยมีประสบการณ์การทำงานในภาคเกษตร ๑๒ ปี ดำเนินกิจกรรมการเกษตรอินทรีย์บนพื้นที่ ๓๘ ไร่ ประกอบด้วยการปลูก แปรรูป และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ข้าวอินทรีย์มาตรฐานสากล ได้แก่ มาตรฐานสหภาพยุโรป (EU) มาตรฐานสหรัฐอเมริกา (NOP:USDA Organic) มาตรฐานแคนาดา (COR) เป็นบุคคลที่สามารถเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้อื่นทั้งในด้านความขยันหมั่นเพียร ความใฝ่รู้ ความเอื้อเฟื้อและเสียสละ เป็นผู้นำเกษตรกร
ที่ทำการปลูกข้าวอินทรีย์ที่ได้มาตรฐาน
นอกจากนี้ นายรณวริทธิ์ ปริยฉัตรตระกูล ยังมีบทบาทสำคัญ กล่าวคือ เป็นผู้สร้างสรรค์องค์ความรู้และผลงานภาคการเกษตรที่สร้างคุณประโยชน์ โดยเป็นผู้นำเกษตรกรในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตข้าวจากเกษตรที่ใช้สารเคมีมาเป็นเกษตรอินทรีย์ตามมาตรฐานสากล เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ข้าวและผลิตภัณฑ์ ทำให้เกษตรกรสามารถขายข้าวได้สูงกว่าราคาตลาด ก่อให้เกิดการสร้างรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดี เป็นศูนย์กลางการรวบรวมผลผลิตและจำหน่ายข้าวอินทรีย์ โดยผลผลิตที่รวบรวมได้ส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศกลุ่มสหภาพยุโรปร้อยละ ๙๐ และขายในประเทศร้อยละ ๑๐ อีกทั้งยังสนับสนุนให้เกิดกลุ่มผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ โดยกลุ่มมีเงินออมเพื่อเป็นทุนในการบริหารจัดการและจัดหาปัจจัยการผลิตโดยไม่ต้องพึ่งพาภาครัฐ มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการพัฒนาภาคการเกษตรร่วมกับส่วนราชการในระดับจังหวัดและระดับประเทศ
ด้วยประสบการณ์และความรู้ความสามารถ นายรณวริทธิ์ ปริยฉัตรตระกูล ได้ถ่ายทอดผลงานประสบการณ์ด้านการผลิตสินค้าอินทรีย์ผ่านการเป็นวิทยากรบรรยาย วิทยากรกระบวนการ และเป็นต้นแบบการดำเนินธุรกิจการเกษตรในด้านการผลิต การแปรรูป การตลาดให้กับชุมชน เครือข่าย มีการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานในกลุ่มเกษตรกรที่ทำการผลิตข้าวอินทรีย์ ใช้พื้นที่เกษตรกรรมของตนเป็นแหล่งเรียนรู้ ดูงาน
โดยทำการถ่ายทอดผลงานให้กับผู้สนใจที่เข้ามาเยี่ยมชมและศึกษาดูงานในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง สร้างและขยายผลงานด้วยการให้ความรู้ด้านเกษตรอินทรีย์ให้กับสมาชิกในกลุ่มและพัฒนาให้เป็นต้นแบบแก่กลุ่มอื่นๆ มีการรับสมาชิกเข้าร่วมกลุ่มตามเงื่อนไขและข้อบังคับที่กำหนดไว้ มีการขยายรูปแบบผลงานโดยนำไปใช้ที่เมืองปากงึม สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และยังมีการเผยแพร่ผลงานผ่านสื่อต่างๆ อีกจำนวนมาก
จากผลงานต่างๆ ดังที่ได้กล่าวมา ทำให้ นายรณวริทธิ์ ปริยฉัตรตระกูล ได้รับการยกย่องจากหลายสถาบัน นายรณวริทธิ์ ปริยฉัตรตระกูล ได้รับรางวัลเพชรพาณิชย์ ปี ๒๕๕๙ สาขาผู้ประกอบการธุรกิจการเกษตร เนื่องในวันสถาปนากระทรวงพาณิชย์ครบ ๙๖ ปี รางวัลพระราชทานโล่รางวัลปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน สาขาปราชญ์เกษตรผู้ทรงภูมิปัญญา และมีคุณูปการต่อภาคการเกษตรไทย ประจำปี ๒๕๖๐ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รวมถึงรางวัลบุคคลดีเด่นนาคราชทองคำ สาขาเกษตรกรรม คณะวัฒนธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประจำปี ๒๕๖๑ และรางวัลศิษย์เก่าดีเด่น มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประจำปี ๒๕๖๒ อีกด้วย
จากชีวประวัติ ประสบการณ์ ผลงาน และรางวัลต่างๆ ย่อมเป็นที่ประจักษ์ชัดว่านายรณวริทธิ์ ปริยฉัตรตระกูล มีความรู้ความสามารถ เป็นแบบอย่างที่ดีเยี่ยม และเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งของมหาวิทยาลัย สมควรได้รับการเชิดชูให้เกียรติยศปรากฏแพร่หลายสืบไป มหาวิทยาลัยมหาสารคามจึงเห็นควรยกย่องให้ นายรณวริทธิ์ ปริยฉัตรตระกูล เป็นผู้ที่สมควรได้รับพระราชทานรางวัลพระธาตุนาดูนทองคำ ประเภทศิษย์เก่าดีเด่น เพื่อเป็นเกียรติยศแก่ตนเองและวงศ์ตระกูลสืบต่อไป
วันที่ประกาศข่าว : 07 ธ.ค. 2020 ที่มา : |