หัวข้อข่าว : ผู้ได้รับพระราชทานปริญญาศิลปกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชานาฏยศิลป์ ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๔๘
นางฉวีวรรณ พันธุ ศิลปินแห่งชาติ ปี พ.ศ. ๒๕๓๕ สาขาศิลปะการแสดงหมอลำ เป็นชาวอุบลราชธานี เกิดในตระกูลหมอลำซึ่งสืบทอดความรู้ด้านหมอลำกลอนมาสามชั่วคน บิดา คือ หมอลำชาลีข้าวกรอบหรือหมอลำชาลีตู้แตก หมายถึง หมอลำผู้ให้ความเพลิดเพลินจนชาวนาลืมเกี่ยวข้าวและหมอลำชาลีผู้รอบรู้ดั่งตู้คัมภีร์พระไตรปิฎกรวมอยู่ในตน หมอลำฉวีวรรณได้สั่งสมประสบการณ์การแสดงหมอลำจากครอบครัว ผลงานการแสดงที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในรูปการแสดงกลางแจ้ง การบันทึกแผ่นเสียง การแสดงทางวิทยุกระจายเสียงทางสถานีโทรทัศน์ได้รับรางวัลชนะเลิศโล่ทองคำฝังเพชรและได้รับการขนานนามจากสื่อมวลชนและมหาชนว่าเป็นราชินีหมอลำ
นางฉวีวรรณ พันธุ นอกจากประกอบวิชาชีพศิลปะการแสดงหมอลำแล้ว ในด้านความคิดริเริ่มได้พัฒนาศิลปะการแสดงหมอลำรากฐานศิลปะพื้นบ้านประสานกับศิลปะไทย และศิลปะสากล ได้สร้าสรรค์วาดร้องวาดฟ้อนที่เป็นการประสานศิลป์ให้เยาวชนรุ่นใหม่สืบสาน ในสถาบันการศึกษาทั้งในด้านประถมศึกษา มัธยมศึกษาและอุดมศึกษา นอกจากนี้ยังเป็นเสาหลักให้กรมศิลปากร ให้สำนักวัฒนธรรมแห่งชาติ นำศิลปะการแสดงพื้นบ้านไทยไปเผยแพร่ ณ ประเทศเยอรมันนี เนเธอร์แลนด์ สิงคโปร์ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่นและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นอกจากนี้บทบาทภายในประเทศ นางฉวีวรรณ พันธุ เป็นผู้นำศิลปินการแสดงชุดสำคัญในโอกาสพิเศษอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จเจ้าฟ้าหญิงจุฬาลงกรณ์วลัยลักษณ์ และที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ การสร้างสื่อหมอลำเผยแพร่งานพัฒนาสังคมให้แก่กระทรวงต่างๆ ได้แก่ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สถาบันวิจัยวลัยรุกขเวช สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มหาวิทยาลัยสุรนารี มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยมหาสารคาม สำนักคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติจึงประกาศกิตติคุณยกย่องให้เป็นครูภูมิปัญญาไทย กล่อนลำที่ดีเด่นด้านเผยแพร่นโยบายสำคัญของราชการ ได้แก่ กลอนลำอีสานไม่กินปลาดิบ กลอนลำรณรงค์โรคเอดส์ กลอนลำเรื่องโรคพยาธิใบไม้ในตับ กลอนลำไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส่วนกลอนลำล่องโขง เป็นต้น ด้วยผลผลงานสร้างสรรค์และสืบสานศิลปะการแสดงหมอลำกลอนดีเด่น สภามหาวิทยาลัยจึงเห็นสมควรประสาทปริญญาศิลปกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชานาฏยศิลป์ ให้เป็นเกียรติแก่มหาวิทยาลัยมหาสาคามสืบไป วันที่ประกาศข่าว : 15 ส.ค. 2010 ที่มา : |