หัวข้อข่าว : ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลพระธาตุนาดูนทองคำมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประเภทบุคคลดีเด่น ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๔๐
นางพรรณี บุญเพิ่ม เกิดเมื่อวันที่ ๕ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๖ ปัจจุบันพักอยู่ที่บ้านเลขที่ ๓๘ ถนนผ้าขาว อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ สำเร็จการศึกษาชั้นประถมปีที่ ๔ จากโรงเรียนบ้านท่าขอนยาง อำเภอกันทรวิชัย จังหวัดมหาสารคาม ได้รับการศึกษาอบรมหลักสูตรการจัดการ จากสถาบันพัฒนาการบริหารศาสตร์ (IMET) การอบรมหลักสูตรการเมืองเร่งรัด และการอบรมหลักสูตรเคหะพยาบาลจากสภากาชาดไทย
นางพรรณี บุญเพิ่ม ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว และประสบความเร็จในอาชีพเป็นอย่างมาก ปัจจุบันเป็นเจ้าของผู้จัดการบริษัทแสดงประทีปเดินรถจำกัด บริษัทกาฬสินธุ์กิจการโรงแรม บริษัทกาฬสินธุ์ธุรกิจค้ำประกัน และกิจการปั๊มน้ำมันเอสโซในจังหวัดกาฬสินธุ์
นางพรรณี บุญเพิ่ม ไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพส่วนตัวเท่านั้น แต่ยังได้สร้างคุณประโยชน์ในกิจกรรมสาธารณกุศลต่างๆ ในเขตจังหวัดกาฬสินธุ์มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีตจนถึงจนถึงปัจจุบัน อาทิ เป็นกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดกาฬสินธุ์ กรรมการสมาคมวัฒนธรรม เคยดำรงตำแหน่งเป็นประธานชมรมลูกเสือชาวบ้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประธานสภาวัฒนธรรม ประธานกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดกาฬสินธุ์ และดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการมูลนิธิต่างๆ หลายมูลนิธิ พร้อมกันนั้นก็เป็นบุคคลที่มีจิตใจเสียสละทั้งด้านกำลังกายและกำลังทรัพย์สนับสนุนและส่งเสริมกิจกรรมสาธารณสุขกุศลทั้งในด้านศาสนา การศึกษา สาธารณูปโภค การบำเพ็ญประโยชน์แก่ท้องถิ่นมากมากอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ จนได้รับพิจารณาให้ได้รับรางวัลต่างๆ หลายครั้งด้วยกัน เช่น ได้รับพระราชทานเหรียญกาชาดสมนาคุณชั้นหนึ่งของสภากาชาดไทย ในปี พ.ศ. ๒๕๒๖ รางวัลผู้บริการดีเด่นลูกเสือชาวบ้านระดับภาคในปี พ.ศ. ๒๕๒๙ รางวัลอาสาสมัครดีเด่นของสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ในปี พ.ศ. ๒๕๓๖ รับรางวัลผู้มีผลงานวัฒนธรรมดีเด่นจากสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติในปี พ.ศ. ๒๕๓๖ และรางวัลบุคคลเกียรติยศ (รางวัลชีวิต) จากชมรมสร้างสรรค์สังคมไทย ในปี พ.ศ. ๒๕๔๐ เป็นต้น
จากประวัติและผลงานที่ประสบความสำเร็จทั้งในด้านอาชีพส่วนตัว และการบำเพ็ญกิจกรรมสาธารณประโยชน์แก่ท้องถิ่นในด้านต่างๆ มาโดยตลอด มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จึงขอประกาศยกย่องนางพรรณี บุญเพิ่ม ให้เป็นบุคคลที่สมควรได้รับรางวัลพระธาตุนาดูนทองคำ ประเภทบุคคลดีเด่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อเป็นเกียรติยศแก่ตนเอง วงศ์ตระกูลและท้องถิ่นสืบไป วันที่ประกาศข่าว : 31 ก.ค. 2010 ที่มา : |