นายมินทร์  อิงค์ธเนศ  เกิดเมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๗ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีทางสถาปัตยกรรมศาสตร์ จากFu Hising Instiute of Technology  หลังจากสำเร็จการศึกษาที่ไต้หวันแล้วได้เดินทางไปเริ่มต้นชีวิตการทำงานด้านธุรกิจ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกาประมาณ ๕ ปี ได้เรียนรู้และสะสมประสบการณ์อันมีค่าต่างๆ มากมาย ในปี พ.ศ. ๒๕๒๓ บิดาได้มาทำธุรกิจในประเทศไทย  ได้ช่วยบิดาดูแลโรงงานเหล็กและดำเนินธุรกิจนำเข้าและส่งออก  ในปี พ.ศ. ๒๕๒๕ ได้เข้าสู่ธุรกิจเครื่องใช้สำนักงานทันสมัย (Office Automation)ด้วยวิสัยทัศน์กว้างไกลจึงเล็งเห็นว่าเทคโนโลยีสารสนเทศจะเข้ามามีบทบาทต่อชีวิตมนุษย์ทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านธุรกิจ อุตสาหกรรม การศึกษา การบันเทิง หรือแม้แต่ ในการดำเนินชีวิตประจำวัน ทั้งยังเห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามาสู่สังคมไทยทุกระดับจึงจะทำให้ประเทศไทยพัฒนาแข่งขันกับนานาประเทศได้  จึงได้จัดตั้งบริษัท สหวิริยาอินฟอร์เทค คอมพิวเตอร์ จำกัด ขึ้นด้วยเงินทุนจดทะเบียนเริ่มต้นเพียงหนึ่งล้านบาทและ ได้บริหารงานต่อมาในฐานะผู้บริหารสูงสุด  จนปัจจุบันได้ขยายขอบเขตการดำเนิน  เพิ่มจำนวนบริษัทในเครือขึ้นมาเป็น ๒๒ บริษัท มีมูลค่าของธุรกิจโดยวัดตามยอดการจำหน่ายได้หนึ่งกว่า ๒,๐๐๐ ล้านบาทในเวลาเพียง ๑๐ ปี ปัจจุบัน นายมินทร์  อิงค์ธเนศ ดำรงตำแหน่งเป็นประธานบริหารของกลุ่มบริษัท สหวิริยาโอเอ

   นายมินทร์  อิงค์ธเนศ  เป็นผู้ริเริ่มให้ผู้มีการพัฒนาระบบโปรแกรมจัดงานคอมพิวเตอร์เป็นภาษาไทย และได้พยายามเสาะหาเทคโนโลยี อื่นๆ  ทางด้านสารสนเทศเข้ามาสู่สังคมไทยจนอาจกล่าวได้ว่าเป็นผู้มีส่วนผลักดันให้สังคมไทยอยู่ในระดับแนวหน้าในโลกของสารสนเทศที่กำลังมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วในปัจจุบันนายมินทร์  อิงค์ธเนศ  ได้เป็นผู้มีปณิธานมุ่งมั่นที่ที่จะให้ประเทศไทยเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีสารสนเทศทั้งในระดับภูมิภาคและระดับสากลในที่สุด  โดยได้ผลักดันให้เกิดกรวิจัยและพัฒนาด้านสารสนเทศขึ้นทั้งภายในองค์กรของตนและสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาของสถานศึกษาและหน่วยราชการต่างๆ อีกทั้งยังได้เน้นการลงทุนที่จะให้เกิดขึ้นในประเทศไทยโดยพยามยามชักนำบริษัทต่างชาติให้มาทำการผลิตในประเทศไทย  และให้การสนับสนุนการศึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ อย่างสม่ำเสมอ  โดยการมีส่วนร่วมในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านสารสนเทศด้วยการให้องค์กรและบุคลากรของ บริษัทให้การฝึกอบรมแก่นิสิตนักศึกษาจากสถาบันต่างๆ อยู่ตลอดเวลา

   ทางด้านการบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมนายมินทร์  อิงค์ธเนศ  ได้ให้การสนับสนุนกิจการสาธารณประโยชน์อยู่เสมอ ได้จัดหาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เป็นจำนวนมากให้ใช้โดยไม่คิดค่าตอบแทนในกิจกรรมของส่วนรวมต่างๆ เช่น ในการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ  การแข่งขันกีฬา  กิจกรรมทางวิชาการของสถานศึกษาต่าง ๆ และการสนับสนุนอุปกรณ์ให้แก่สถานศึกษาที่ขาดแคลนโดยการบริจาค เป็นต้น

   นายมินทร์  อิงค์ธเนศ  เป็นผู้ประสบความสำเร็จสูงสุดในฐานะผู้บุกเบิกธุรกิจด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีในและในประเทศไทยซึ่งกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง อีกทั้งยังได้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม  โดยส่งเสริมการศึกษา IT ในโครงการศึกษาต่าง ๆ สภามหาวิทยาลัยมหาสารคาม จึงมีมติเป็นเอกฉันท์มอบปริญญาวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์  สาขาวิชาระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณให้ปรากฎสืบไป