เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2553 ณ  ลานคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม โดย คณะศิลปกรรมศาสตร์ ได้จัดงานแสดงความยินดีเชิดชูเกียรติ ดร.นนทิวรรธน์  จันทนะผะลิน ศิลปินแห่งชาติ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ในโอกาสที่ได้รับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์  สาขาประติมากรรม  จากมหาวิทยาลัยศิลปากร  ประจำปีการศึกษา 2552 

   ภายในงานมีพิธีบายศรีสู่ขวัญผูกข้อต่อแขนแสดงความยินดีเพื่อเป็นสิริมงคล  มีการรำบายศรีจากนิสิตคณะศิลปกรรมศาสตร์ การแสดงดนตรีพื้นบ้านจากนิสิตวิทยาลัยดุริยางคศิลป์  มีการจัดแสดงนิทรรศการผลงานเพื่อเชิดชูเกียรติ ดร.นนทิวรรธน์  จันทนะผะลิน ศิลปินแห่งชาติ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ในการนี้ รองศาสตราจารย์ ดร. ปิยพันธ์  แสนทวีสุข  รองอธิการบดีฝ่ายอำนวยการ เป็นผู้แทนมหาวิทยาลัยกล่าวเชิดชูเกียรติแสดงความยินดี มี ผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากรและนิสิต ร่วมมอบของที่ระลึก

   ดร.นนทิวรรธน์  จันทนะผะลิน  ศิลปินแห่งชาติ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม  ได้กล่าวถึงความรู้สึกว่า “ขอบคุณมหาวิทยาลัยศิลปกร ที่ได้มอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ทางด้านประติมากรรมให้กับผม  การไห้ปริญญาครั้งนี้ผมรู้สึกเป็นเกียรติ  แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมต้องทำให้ปริญญาที่ได้รับในครั้งนี้เป็นสิ่งที่มีค่าต่อไป  เพราะฉะนั้นการที่จะออกมารับใช้สังคม ในด้านงานวิชาการ  งานสร้างสรรค์ทางด้านประติมากรรม ถ้าหากว่ามีสิ่งใดที่ผมสามารถเข้าไปรับใช้ได้ผมก็จะทำให้เต็มความสามารถ”

   กล่าวถึงเรื่องวิสัยทัศน์  “เป็นเรื่องที่โชคดีที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม  มีอาจารย์ในคณะศิลปกรรมศาสตร์เป็นผู้ที่มีความกระตือรือร้น มีความรู้   มีความสามารถ  มีความฝักใฝ่ที่จะพัฒนางานทางด้านการเรียนการสอน  ทั้งงานในการเผยแพร่ทางวิชาการกับสังคมได้อย่างโดดเด่น  แต่ว่า  ทางคณะเองจะว่าไปแล้วยังมีความขาดแคลนบางเรื่อง  ถ้าหากว่ามหาวิทยาลัยให้ความอนุเคราะห์บางเรื่องที่จะช่วยทำให้ความเติบโตของคณะศิลปกรรมศาสตร์มีมากขึ้นก็อยากขอความกรุณามหาวิทยาลัยให้ช่วยเหลือ  ให้ความอนุเคราะห์ด้วยเพราะว่าสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  ความโดดเด่นในเชิงวิชาการ หรือออกไปรับใช้บริการสังคมกับภูมิภาคนี้   คณะศิลปกรรมศาสตร์ทำได้อย่างโดดเด่นและมีคุณภาพสร้างชื่อเสียงให้กับมหาวิทยาลัยและคณะเป็นอย่างมาก  คิดว่าเป็นความโชคดีของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่มีบุคลากรที่ได้รับเข้ามาล้วนมีคุณภาพเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถสร้างความโดดเด่นให้กับมหาวิทยาลัยไปในแนวทางเดียวกัน”

   กล่าวถึงข้อคิดแนวปฏิบัติ  “ผมก็ได้บอกนิสิตเสมอว่าเมื่อเขาจบออกไปดำรงชีวิตในสังคม สิ่งที่เขาควรแสวงหาคือเรื่องของความดี ความงาม และความจริง  ซึ่งเป็นสิ่งที่มีคุณค่าของชีวิต เมื่อเราได้แสวงหาสิ่งเหล่านี้แล้ว  สิ่งที่เป็นลาภ  ยศ สรรเสริญ สุข ก็จะตามมาเอง  และก็ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นว่าต้องเป็นอย่างนั้นและสิ่งเหล่านั้นจะตามมาอย่างมั่นคงและถาวร และเขาก็จะเป็นสุขตั้งแต่เขาทำงาน  จนกระทั้งเขาทำงานต่อเนื่องไปแล้วจะเกิดความสบายใจ และเขาจะแสวงหาในแต่สิ่งที่ดีและสิ่งที่ เป็นความจริง”

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม โทร. 043-754333  ต่อ 3594

ภาพ / ข่าว : แสงเทียน  วงษาเวียง