หัวข้อข่าว : ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลพระธาตุนาดูนทองคำมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประเภทบุคคลดีเด่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สาขาบำรุงศิลปวัฒนธรรม ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๕๒
นายอุส่าห์ จันทรวิจิตร เกิดวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๖ อายุ ๗๖ ปี ที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยเกิดในตระกูลช่างอุบล จึงได้รับการถ่ายทอดฝีมือช่างศิลป์จากบิดา ในด้านวาดเขียน ด้านก่อสร้างโบสถ์ วิหาร ศาลาการเปรียญ การแกะสลักลวดลายบานโบสถ์ บานประตู บานหน้าต่าง แท่นพระ เชี่ยวชาญงานปูนปั้น งานลงรักปิดทองด้ายความรอบรู้พิเศษเหล่านี้ จึงสอนได้ครูวาดเขียนชั้นโท ณ โรงเรียนนารีนุกูล
นายอุส่าห์ จันทรวิจิตร ได้สร้างสรรค์ผลงานด้านศิลปกรรมเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง
พ.ศ. ๒๔๙๙ สร้างงานศิลปสถาปัตยกรรม ที่วัดเจียงอีศรีวราราม วัดพยุหมงคลรัตนาราม พ.ศ. ๒๕๐๐ สร้างศาลาการเปรียญ หน้าบัน ช่อฟ้า ใบระกา แกะสลักลวดลายปูนปั้นวัดบูรพาราม พ.ศ. ๒๕๐๒ ออกแบบตกแต่งลวดลายพระอุโบสถวัดธรรมิการาม และวัดศรีอุบลรัตนาราม พ.ศ. ๒๕๐๘ ออกแบบตกแต่งศาลาการเปรียญวัดบ้านปากน้ำ พ.ศ. ๒๕๐๙ ออกแบบตกแต่งหอระฆังวัดประสิทธิยาราม พ.ศ. ๒๕๑๐ ออกแบบตกแต่งสร้างซุ้มประตูวัดศรีมงคล
ผลงานที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายที่สุด คือ การแกะเทียนพรรษาให้วัดต่างๆ ส่งเข้าประกวดจนได้รับรางวัลที่หนึ่งตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๐๓ - ๒๕๔๓ งานประติมากรรมปูนปั้น แกะสลักต้นเทียนจำลองที่เป็นที่รู้จักกันทั่วไป คือ ต้นเทียนใหญ่เฉลิมพระเกียรติ ณ สนามทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ต้นเทียนหน้าศาลาประชาวาริน เทศบาลวารินชำราม จังหวัดอุบลราชธานี ด้วยความรอบรู้ความสามารถในการสร้างสรรค์พุทธศิลป์ จึงได้รับรางวัลเกียรติคุณหลายครั้ง อาทิเช่น
- บุคคลดีเด่นด้านวัฒนธรรม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สาขาประติมากรรม - รางวัลนอร์มา จากองค์การยูเนสโก ในปี ค.ศ. ๑๙๙๐ - ครูภูมิปัญญาไทย รุ่นที่ ๕ สาขาศิลปกรรม สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ
ในฐานะผู้มีผลงานดีเด่นด้านวัฒนธรรมที่ต่อเนื่องยาวนาน สภามหาวิทยาลัยมหาสารคาม จึงเป็นการยกย่องให้เป็นผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลพระธาตุนาดูนทองคำ ประเภทบุคคลดีเด่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สาขาทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม เพื่อเป็นเกียรติแก่ตนเองและวงศ์ตระกูลสืบมหาวิทยาลัยสืบไป วันที่ประกาศข่าว : 15 ก.ค. 2010 ที่มา : |