หัวข้อข่าว : ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลพระธาตุนาดูนทองคำ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๕ ประเภทบุคคลดีเด่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สาขาทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม
ผู้ได้รับพระราชทานรางวัลพระธาตุนาดูนทองคำ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๕
ประเภทบุคคลดีเด่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สาขาทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม
นายเพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา
*************************************************
นายเพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา หรือชื่อในวงการแสดงว่า หม่ำ จ๊กม๊ก เกิดที่จังหวัดยโสธร จบการศึกษาระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนเทศบาลสามัคคีวัฒนา และระดับมัธยมศึกษาโรงเรียนศรีธรรมวิทยา จังหวัดยโสธร ปี พ.ศ. ๒๕๔๘ ได้รับปริญญามหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาสื่อสารมวลชน คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปี พ.ศ. ๒๕๔๘ ได้รับปริญญามหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขานิเทศศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด และได้รับการเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินมรดกอีสาน สาขาศิลปะการแสดง (ภาพยนตร์) ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๐ จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น
นายเพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา ชื่นชอบการชมมหรสพมาตั้งแต่วัยเยาว์ ทั้งภาพยนตร์ เพลง และลิเก มีความคิดเป็นของตนเอง มีความมั่นใจและกล้าแสดงออก มีความคิดริเริ่มไม่หยุดนิ่ง ชอบชมภาพยนตร์ทุกประเภท เนื่องจากบ้านอยู่ใกล้โรงภาพยนตร์ยโสธรรามา ย่างเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นจึงเดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯ และลองหาประการณ์กับการอยู่คณะวงดนตรีลูกทุ่งหลายคณะ เช่น สดใส รุ่งโพธิ์ทอง ปฤษณา วงศ์ศิริ เป็นต้น
นายเพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา เป็นผู้มีความสามารถรอบด้าน มีอุปนิสัยรื่นเริงคุยสนุก พูดเก่ง ได้รับโอกาสให้แสดงตลกหน้าเวทีจนกระทั่งพบกับสุเทพ โพธิ์งาม ซึ่งเป็นทั้งอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชา เพื่อนร่วมงาน และเป็นผู้นำ นายเพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา เข้าสู่วงการตลกอย่างจริงจังในนามสมาชิกของคณะเทพ โพธิ์งาม ที่โด่งดัง โดยใช้ชื่อในวงการว่า หม่ำ สปาเก็ตตี้ และเปลี่ยนมาใช้ชื่อ หม่ำ จ๊กม๊ก ภายหลัง จนเริ่มมีชื่อเสียงมีคนรู้จักทั่วประเทศนับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา นายเพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นดาวรุ่งของวงการตลกหน้าใหม่ที่มีรูปแบบการแสดงที่สด ใหม่ ไม่เหมือนใคร กล้าแสดงออก มีไหวพริบปฏิภาณในการโต้ตอบได้ถูกใจและประทับใจผู้ชม
เมื่อมีชื่อเสียงโด่งดังมากขึ้นทำให้มีงานแสดงภาพยนตร์เข้ามาไม่ขาด นอกจากนี้ยังได้โอกาสเข้ามาทำหน้าที่พิธีกรให้กับบริษัท เวิร์คพ้อยท์ เริ่มจากรายการชิงร้อยชิงล้าน และอีกหลายรายการ เช่น รายการเวทีทอง รายการระเบิดเถิดเทิง รายการชัยบดินทร์โชว์ รายการหม่ำโชว์ รายการมหานคร รายการซูเปอร์หม่ำ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นรายการวาไรตี้โชว์ที่มีความโดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว นับได้ว่า นายเพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่เอกลักษณ์ของชาวอีสานทั้งภาษาพูด ดนตรี การแสดง และการแต่งกาย นอกจากนี้ ยังได้ยกย่องและเชิดชูเกียรติศิลปินพื้นบ้าน ศิลปินหมอลำ ให้เป็นที่รับรู้ในระดับสาธารณชนอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ สำหรับผลงานด้านภาพยนตร์ นายเพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา เป็น ลูกอีสาน ที่ได้ขึ้นสู่วงการผู้กำกับภาพยนตร์แนวหน้า สร้างรายได้มหาศาล ได้ก่อตั้งบริษัท บั้งไฟฟิล์ม จำกัด เพื่อผลิตภาพยนตร์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สะท้อนอัตลักษณ์วัฒนธรรมอีสานอย่างสมภาคภูมิ นายเพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา ทุ่มเทกับงานสร้างภาพยนตร์อย่างเต็มที่ เรียนรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่างๆ ด้วยการลงมือปฏิบัติอย่างต่อเนื่องจนพัฒนาและออกมาในรูปแบบเฉพาะตน มีความเป็นเอกลักษณ์ สะท้อนขนบธรรมเนียม ประเพณี วิถีชีวิต อัตลักษณ์ และศิลปวัฒนธรรมของอีสานในผลงานภาพยนตร์ทุกเรื่อง นายเพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา เน้นการนำเสนอภูมิศาสตร์ท้องถิ่น วิถีชีวิตประจำวัน ลักษณะนิสัยตัวละคร เช่น เป็นมิตร มีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือผู้คน และอื่นๆ ที่บ่งบอกและแสดงออกให้เห็นความเป็นอีสานในตัวละครทุกตัวละคร สิ่งต่างๆ เหล่านี้ สามารถเปลี่ยนภาพจำที่ผู้คนมีต่อชาวอีสานจากด้านลบสู่ความประทับใจและความเข้าใจ นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอภูมิปัญญาและพิธีกรรมต่างๆ ของชาวอีสานเช่น การสู่ขวัญ หรือพิธีแต่งงานให้เห็นในภาพยนตร์ เป็นการนำเสนอให้เห็นความงดงาม ความรอบรู้ และความผูกพันของชาวอีสานต่อสิ่งต่างๆ ภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงมีหลายเรื่อง เช่น แหยมยโสธร ภาค ๑ ภาค ๒ และภาค ๓ ครูบ้านนอก บ้านหนองฮีใหญ่ เลิฟเลยร้อยเอ็ด เป็นต้น กล่าวได้ว่าผลงานภาพยนตร์ของ นายเพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา ได้รับความนิยมอย่างสูงและเป็นที่รู้จักแพร่หลาย นับเป็นความสำเร็จและสร้างความภาคภูมิใจให้ ลูกอีสาน อย่างแท้จริง
จากชีวประวัติ ประสบการณ์ และผลงานต่างๆ ย่อมเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า นายเพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา เป็นผู้มีความรู้ความสามารถและมี อัจฉริยลักษณ์ ด้านศิลปวัฒนธรรมอย่างยอดเยี่ยม มหาวิทยาลัยมหาสารคามจึงเห็นควรยกย่องให้ นายเพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา เป็นผู้ที่สมควรได้รับพระราชทานรางวัลพระธาตุนาดูนทองคำ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๕ ประเภทบุคคลดีเด่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สาขาทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม เพื่อเป็นเกียรติยศแก่ตนเองและวงศ์ตระกูลสืบต่อไป
*************************************************
วันที่ประกาศข่าว : 21 ธ.ค. 2022 ที่มา : |